การกล่าวซ้ำ 2 (Paraphrasing 2)
จาก ChulaPedia
(วิธีต่างๆในการทำ paraphrasing) |
(วิธีต่างๆในการทำ paraphrasing) |
||
แถว 10: | แถว 10: | ||
7. เปลี่ยนรูปประโยค simple, compound และ complex | 7. เปลี่ยนรูปประโยค simple, compound และ complex | ||
8. เปลี่ยน phrases ให้เป็น clauses หรือสลับกัน | 8. เปลี่ยน phrases ให้เป็น clauses หรือสลับกัน | ||
+ | |||
+ | ทำอย่างไรจึงจะ paraphrase ได้ดี | ||
+ | การที่จะ paraphrase ได้ถูกต้องและคล่องแคล่วนั้น ย่อมอาศัยการฝึกฝน ตลอดจนพื้นฐานความรู้เรื่องคำศัพท์ และไวยากรณ์อย่างดีเป็นหลัก ดังนั้น ควรทำสิ่งต่อไปนี้ | ||
+ | • อ่านมากๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนคำศัพท์สำนวน และทำให้คุ้นเคยกับสำนวนภาษาต่างๆมากขึ้น | ||
+ | • ค้นคว้าหาความหมายของคำศัพท์ และวิธีการใช้คำนั้นๆ จาก dictionary | ||
+ | • ทบทวนหลักไวยากรณ์ต่างๆ และทำแบบฝึกหัดในศูนย์เรียนรู้ด้วยตนเองของสถาบันภาษา หรือตาม websites ต่างๆ เช่น ที่ www.e-english.cjb.net ซึ่งจะมีคำอธิบายหัวข้อไวยากรณ์บางหัวข้อเป็นภาษาไทย พร้อมแบบฝึกหัดที่ รศ.อัณฑิการ์ โรงสะอาด จัดทำขึ้น ให้นิสิตเลือกทำได้ตามต้องการ หรือตามหัวข้อที่ตนเองสนใจ | ||
+ | |||
+ | ถ้าสนใจเรื่อง paraphrasing ศึกษาหรือดูตัวอย่างเพิ่มเติมได้ตาม websites ต่างๆ เช่น http://www.wisc.edu/writing/Handbook/QPA_paraphrase.html |
การปรับปรุง เมื่อ 04:32, 7 กุมภาพันธ์ 2554
วิธีต่างๆ ในการทำ paraphrasing
1. เปลี่ยนคำศัพท์ที่ใช้ มีสองวิธีย่อย คือ 1.1 ใช้ คำเหมือน (synonym) เช่น ใช้ luckily แทน fortunately 1.2 เปลี่ยนคำเป็นวลี หรือเปลี่ยนวลีให้เป็นคำ เช่น ใช้ important แทน of importance 2. ใช้ word forms อื่นๆ หรือ parts of speech ที่ต่างไป อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าในการใช้วิธีนี้ เราจะต้องเปลี่ยนโครงสร้างอื่นๆด้วยเพื่อให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ คำว่า frequently เป็น adverb เมื่อต้องการใช้ คำว่า frequent ก็ต้องใช้ สำนวน on frequent occasions เป็นต้น จะใช้แทนเฉยๆ ไม่ได้ 3. เปลี่ยนรูปประโยคที่อยู่ใน active voice ให้เป็น passive voice หรือสลับกัน 4. เปลี่ยนประโยคบอกเล่าให้เป็นประโยคปฏิเสธ หรือสลับกัน อย่างไรก็ตาม ต้องระวังให้ความหมายของต้นฉบับคงเดิมอยู่ 5. เปลี่ยนลำดับคำ เช่น adverbs of time, adverbs of place หรือ ส่วนขยายคำหรือประโยค ไปไว้ข้างหน้าแทนที่จะไว้ข้างหลังอย่างเดิม หรือสลับกัน เป็นต้น ในบางกรณี ก็ต้องเปลี่ยนโครงสร้างด้วยในเวลาเดียวกัน เช่น the level of cholesterol in their blood ถ้าต้องการย้ายส่วนขยาย in their blood ไปไว้ข้างหน้า ก็ต้องเปลี่ยนเป็น their blood cholesterol level 6. เปลี่ยนตัวเชื่อมประโยค เช่น ใช้คำว่า providing that แทนคำว่า if หรือ ใช้คำว่า although แทนคำว่า despite เป็นต้น ในบางกรณี ก็ต้องเปลี่ยนโครงสร้างด้วยในเวลาเดียวกัน เช่น ถ้าใช้ despite ต้องตามด้วย noun phrase ถ้าใช้ although ต้องตามด้วย clause จึงจะถูกต้อง 7. เปลี่ยนรูปประโยค simple, compound และ complex 8. เปลี่ยน phrases ให้เป็น clauses หรือสลับกัน
ทำอย่างไรจึงจะ paraphrase ได้ดี การที่จะ paraphrase ได้ถูกต้องและคล่องแคล่วนั้น ย่อมอาศัยการฝึกฝน ตลอดจนพื้นฐานความรู้เรื่องคำศัพท์ และไวยากรณ์อย่างดีเป็นหลัก ดังนั้น ควรทำสิ่งต่อไปนี้ • อ่านมากๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนคำศัพท์สำนวน และทำให้คุ้นเคยกับสำนวนภาษาต่างๆมากขึ้น • ค้นคว้าหาความหมายของคำศัพท์ และวิธีการใช้คำนั้นๆ จาก dictionary • ทบทวนหลักไวยากรณ์ต่างๆ และทำแบบฝึกหัดในศูนย์เรียนรู้ด้วยตนเองของสถาบันภาษา หรือตาม websites ต่างๆ เช่น ที่ www.e-english.cjb.net ซึ่งจะมีคำอธิบายหัวข้อไวยากรณ์บางหัวข้อเป็นภาษาไทย พร้อมแบบฝึกหัดที่ รศ.อัณฑิการ์ โรงสะอาด จัดทำขึ้น ให้นิสิตเลือกทำได้ตามต้องการ หรือตามหัวข้อที่ตนเองสนใจ
ถ้าสนใจเรื่อง paraphrasing ศึกษาหรือดูตัวอย่างเพิ่มเติมได้ตาม websites ต่างๆ เช่น http://www.wisc.edu/writing/Handbook/QPA_paraphrase.html