ชาวเล
จาก ChulaPedia
(การแก้ไข 12 รุ่นระหว่างรุ่นที่เปรียบเทียบไม่แสดงผล) | |||
แถว 1: | แถว 1: | ||
'''อูรักลาโว้ย มอแกลน และมอแกน''' | '''อูรักลาโว้ย มอแกลน และมอแกน''' | ||
- | ผู้เชี่ยวชาญทะเลแห่งเกาะและชายฝั่งอันดามัน | + | ''ผู้เชี่ยวชาญทะเลแห่งเกาะและชายฝั่งอันดามัน'' |
+ | |||
[[ไฟล์:cusri_image001.png|200px|thumb|left|ลักษณะบ้านแบบดั้งเดิมของชาวมอแกน ถ่ายเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2547 ณ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์]] | [[ไฟล์:cusri_image001.png|200px|thumb|left|ลักษณะบ้านแบบดั้งเดิมของชาวมอแกน ถ่ายเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2547 ณ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์]] | ||
- | |||
- | + | คนในสังคมไทยรวมทั้งสังคมโลกมีโอกาสได้รู้จักกับกลุ่มชาติพันธุ์ที่เรียกว่า “ชาวเล” มากขึ้นหลังจากที่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปลายปี พ.ศ. 2547 พร้อมกับการได้รับรู้ว่าชาวเลกลุ่มชาติพันธุ์ย่อยทั้งสามกลุ่มในประเทศไทย คือ มอแกน มอแกลน และอูรักลาโว้ย ต่างมีปัญหาร่วมกันกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ชายขอบอีกหลายกลุ่ม อาทิ การขาดความมั่นใจและภูมิใจในวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิม การขาดการสืบทอดความรู้พื้นบ้าน การถูกกีดกันออกจากสิทธิในการใช้และเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ การถูกดูแคลนจากบุคคลที่ไม่เข้าใจในวิถีวัฒนธรรมแบบ “ชาวเล” และที่สำคัญก็คือการขาดความมั่นคงในที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาอื่นๆ อีก เช่น การขาดแคลนด้านสาธารณูปโภค การขาดแคลนพื้นที่สาธารณะและพื้นที่สีเขียวบริเวณชุมชน การขยายตัวของบ้านเรือนอย่างไร้ทิศทาง ความแออัดของพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ฯลฯ | |
- | [[ไฟล์:cusri_image002.png|200px|thumb|right|แผนที่แสดงการกระจายตัวของชุมชนชาวเลโดยสังเขป]] | + | |
+ | |||
+ | “ชาวเล” เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีวิถีชีวิต ภาษา วิถีวัฒนธรรมที่ผูกพันกับทะเล และมีชื่อเฉพาะที่เรียกกลุ่มของตนเองว่า “มอแกน” (ชาวเลที่เกาะเหลา เกาะพยามและเกาะสินไหในจังหวัดระนอง หมู่เกาะสุรินทร์ ในจังหวัดพังงา และหาดราไวย์ ในจังหวัดภูเก็ต) “มอแกลน” (ชาวเลที่เกาะพระทอง และหมู่บ้านชายฝั่งทะเลกว่ายี่สิบหมู่บ้านในจังหวัดพังงา และภูเก็ต) และ “อูรักลาโว้ย” (ชาวเลที่อาศัยอยู่บนเกาะต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล) | ||
+ | |||
+ | [[ไฟล์:cusri_image002.png|200px|thumb|right|แผนที่แสดงการกระจายตัวของชุมชนชาวเลโดยสังเขป]] | ||
+ | |||
+ | |||
แม้ว่าชาวเลจะเป็นคนพื้นเมือง เป็นผู้อยู่อาศัยแต่ดั้งเดิมในบริเวณชายฝั่งทะเลแถบนี้ และเป็นผู้เชี่ยวชาญทางทะเลที่ยึดการเก็บหาสัตว์ทะเลและพืชผักต่างๆ ในป่าเพื่อการยังชีพในอดีต แต่ในบางท้องถิ่นชาวเลกลับไม่ได้รับการยอมรับ หลายพื้นที่ในอดีต คำว่า “ชาวเล” เป็นคำที่มักจะใช้ในทางลบ คือใช้เรียกคนที่ละเลยเรื่องอนามัยและความสะอาด ไม่เอาใจใส่การเล่าเรียน หรือคนที่จับจ่ายใช้สอยจนไม่มีเงินเหลือเก็บ การเรียกเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงการสร้างภาพลักษณ์ด้านลบที่หยุดนิ่งตายตัว และการขาดความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีวัฒนธรรมและลักษณะนิสัยโดยทั่วไปของชาวเล จึงไม่น่าแปลกใจที่ชาวเลส่วนใหญ่ในปัจจุบันยินดีที่จะถูกเรียกว่า “ไทยใหม่” มากกว่า “ชาวเล” | แม้ว่าชาวเลจะเป็นคนพื้นเมือง เป็นผู้อยู่อาศัยแต่ดั้งเดิมในบริเวณชายฝั่งทะเลแถบนี้ และเป็นผู้เชี่ยวชาญทางทะเลที่ยึดการเก็บหาสัตว์ทะเลและพืชผักต่างๆ ในป่าเพื่อการยังชีพในอดีต แต่ในบางท้องถิ่นชาวเลกลับไม่ได้รับการยอมรับ หลายพื้นที่ในอดีต คำว่า “ชาวเล” เป็นคำที่มักจะใช้ในทางลบ คือใช้เรียกคนที่ละเลยเรื่องอนามัยและความสะอาด ไม่เอาใจใส่การเล่าเรียน หรือคนที่จับจ่ายใช้สอยจนไม่มีเงินเหลือเก็บ การเรียกเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงการสร้างภาพลักษณ์ด้านลบที่หยุดนิ่งตายตัว และการขาดความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีวัฒนธรรมและลักษณะนิสัยโดยทั่วไปของชาวเล จึงไม่น่าแปลกใจที่ชาวเลส่วนใหญ่ในปัจจุบันยินดีที่จะถูกเรียกว่า “ไทยใหม่” มากกว่า “ชาวเล” | ||
+ | |||
[[ไฟล์:cusri_image003.png|200px|thumb|left|บ้านชาวอูรักลาโว้ยที่ชุมชนแหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ ซึ่งเป็นชุมชนที่มีปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน]] | [[ไฟล์:cusri_image003.png|200px|thumb|left|บ้านชาวอูรักลาโว้ยที่ชุมชนแหลมตุ๊กแก เกาะสิเหร่ ซึ่งเป็นชุมชนที่มีปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน]] | ||
- | + | ||
- | ดังนั้น | + | |
+ | ทว่าคนนอกที่ได้มีโอกาสรู้จักสนิทสนมกับชาวเลจะทราบดีว่าชาวเลส่วนใหญ่มีส่วนดีๆ ที่มักจะไม่ได้รับการกล่าวอ้างถึงอยู่มาก นอกจากเป็นคนที่รักพวกพ้อง อ่อนน้อมถ่อมตัว และไม่ละโมบโลภมากแล้ว ชาวเลมักจะไม่เกี่ยงงานหนัก งานที่ต้องลงแรงกาย ตรากตรำกรำแดดฝน ลักษณะเช่นนี้น่าจะเป็นที่ยกย่องมากกว่าการเป็นเจ้าของทรัพย์ศฤงคาร มียศตำแหน่ง ฝักใฝ่อำนาจ เช่นที่เรายกย่องเชิดชูกันในสังคมปัจจุบัน นอกจากนั้น ชาวเลทุกกลุ่มยังมีความรู้พื้นบ้านเกี่ยวกับทะเล มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการเดินเรือ การสร้างเรือ การเก็บหาสัตว์ทะเล ความรู้นี้ทำให้ชาวเลอยู่กับทะเลได้อย่างสมดุลมานับร้อยๆ ปี | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ดังนั้น ควรมีการส่งเสริมการเรียนรู้ให้สาธารณชนเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งสภาพปัญหาต่างๆ ซึ่งชุมชนชาวเลกำลังประสบอยู่ เพราะเป็นปัญหาที่เชื่อมโยงกับสังคมใหญ่เช่นเดียวกัน นอกจากนั้น จะต้องมีการส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจในคุณค่าทางวัฒนธรรมของชนกลุ่มชาวเลมากขึ้นด้วย | ||
+ | |||
โครงการต้อยติ่ง – ขยายเมล็ดพันธุ์ความรู้เรื่องกลุ่มชาติพันธุ์และชายขอบสู่สาธารณชน | โครงการต้อยติ่ง – ขยายเมล็ดพันธุ์ความรู้เรื่องกลุ่มชาติพันธุ์และชายขอบสู่สาธารณชน |
รุ่นปัจจุบันของ 03:08, 20 เมษายน 2554
อูรักลาโว้ย มอแกลน และมอแกน ผู้เชี่ยวชาญทะเลแห่งเกาะและชายฝั่งอันดามัน
คนในสังคมไทยรวมทั้งสังคมโลกมีโอกาสได้รู้จักกับกลุ่มชาติพันธุ์ที่เรียกว่า “ชาวเล” มากขึ้นหลังจากที่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปลายปี พ.ศ. 2547 พร้อมกับการได้รับรู้ว่าชาวเลกลุ่มชาติพันธุ์ย่อยทั้งสามกลุ่มในประเทศไทย คือ มอแกน มอแกลน และอูรักลาโว้ย ต่างมีปัญหาร่วมกันกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ชายขอบอีกหลายกลุ่ม อาทิ การขาดความมั่นใจและภูมิใจในวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิม การขาดการสืบทอดความรู้พื้นบ้าน การถูกกีดกันออกจากสิทธิในการใช้และเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ การถูกดูแคลนจากบุคคลที่ไม่เข้าใจในวิถีวัฒนธรรมแบบ “ชาวเล” และที่สำคัญก็คือการขาดความมั่นคงในที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาอื่นๆ อีก เช่น การขาดแคลนด้านสาธารณูปโภค การขาดแคลนพื้นที่สาธารณะและพื้นที่สีเขียวบริเวณชุมชน การขยายตัวของบ้านเรือนอย่างไร้ทิศทาง ความแออัดของพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ฯลฯ
“ชาวเล” เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีวิถีชีวิต ภาษา วิถีวัฒนธรรมที่ผูกพันกับทะเล และมีชื่อเฉพาะที่เรียกกลุ่มของตนเองว่า “มอแกน” (ชาวเลที่เกาะเหลา เกาะพยามและเกาะสินไหในจังหวัดระนอง หมู่เกาะสุรินทร์ ในจังหวัดพังงา และหาดราไวย์ ในจังหวัดภูเก็ต) “มอแกลน” (ชาวเลที่เกาะพระทอง และหมู่บ้านชายฝั่งทะเลกว่ายี่สิบหมู่บ้านในจังหวัดพังงา และภูเก็ต) และ “อูรักลาโว้ย” (ชาวเลที่อาศัยอยู่บนเกาะต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรังและสตูล)
แม้ว่าชาวเลจะเป็นคนพื้นเมือง เป็นผู้อยู่อาศัยแต่ดั้งเดิมในบริเวณชายฝั่งทะเลแถบนี้ และเป็นผู้เชี่ยวชาญทางทะเลที่ยึดการเก็บหาสัตว์ทะเลและพืชผักต่างๆ ในป่าเพื่อการยังชีพในอดีต แต่ในบางท้องถิ่นชาวเลกลับไม่ได้รับการยอมรับ หลายพื้นที่ในอดีต คำว่า “ชาวเล” เป็นคำที่มักจะใช้ในทางลบ คือใช้เรียกคนที่ละเลยเรื่องอนามัยและความสะอาด ไม่เอาใจใส่การเล่าเรียน หรือคนที่จับจ่ายใช้สอยจนไม่มีเงินเหลือเก็บ การเรียกเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงการสร้างภาพลักษณ์ด้านลบที่หยุดนิ่งตายตัว และการขาดความเข้าใจเกี่ยวกับวิถีวัฒนธรรมและลักษณะนิสัยโดยทั่วไปของชาวเล จึงไม่น่าแปลกใจที่ชาวเลส่วนใหญ่ในปัจจุบันยินดีที่จะถูกเรียกว่า “ไทยใหม่” มากกว่า “ชาวเล”
ทว่าคนนอกที่ได้มีโอกาสรู้จักสนิทสนมกับชาวเลจะทราบดีว่าชาวเลส่วนใหญ่มีส่วนดีๆ ที่มักจะไม่ได้รับการกล่าวอ้างถึงอยู่มาก นอกจากเป็นคนที่รักพวกพ้อง อ่อนน้อมถ่อมตัว และไม่ละโมบโลภมากแล้ว ชาวเลมักจะไม่เกี่ยงงานหนัก งานที่ต้องลงแรงกาย ตรากตรำกรำแดดฝน ลักษณะเช่นนี้น่าจะเป็นที่ยกย่องมากกว่าการเป็นเจ้าของทรัพย์ศฤงคาร มียศตำแหน่ง ฝักใฝ่อำนาจ เช่นที่เรายกย่องเชิดชูกันในสังคมปัจจุบัน นอกจากนั้น ชาวเลทุกกลุ่มยังมีความรู้พื้นบ้านเกี่ยวกับทะเล มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการเดินเรือ การสร้างเรือ การเก็บหาสัตว์ทะเล ความรู้นี้ทำให้ชาวเลอยู่กับทะเลได้อย่างสมดุลมานับร้อยๆ ปี
ดังนั้น ควรมีการส่งเสริมการเรียนรู้ให้สาธารณชนเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งสภาพปัญหาต่างๆ ซึ่งชุมชนชาวเลกำลังประสบอยู่ เพราะเป็นปัญหาที่เชื่อมโยงกับสังคมใหญ่เช่นเดียวกัน นอกจากนั้น จะต้องมีการส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจในคุณค่าทางวัฒนธรรมของชนกลุ่มชาวเลมากขึ้นด้วย
โครงการต้อยติ่ง – ขยายเมล็ดพันธุ์ความรู้เรื่องกลุ่มชาติพันธุ์และชายขอบสู่สาธารณชน
สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ถนนพญาไท ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์ 0-2218-7366, 0-2218-7376 โทรสาร 0-2255-2353
Email paladej1@yahoo.com www.andaman.cusri.chula.ac.th