ผลของโปรแกรมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยกระดูกขาหัก

จาก ChulaPedia

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย 'ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพ…')
 
(การแก้ไข 4 รุ่นระหว่างรุ่นที่เปรียบเทียบไม่แสดงผล)
แถว 1: แถว 1:
ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายใน
ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายใน
Effect of Perceived Self-Efficacy Promoting Program on Rehabilitation Behavior in Patients with Femoral Fracture Receiving Internal Fixation
Effect of Perceived Self-Efficacy Promoting Program on Rehabilitation Behavior in Patients with Femoral Fracture Receiving Internal Fixation
 +
 +
การวิจัยแบบกึ่งทดลอง ชนิดศึกษาสองกลุ่มวัดหลังการทดลองในครั้งนี้  มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายใน กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายในซึ่งเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูก โรงพยาบาลศูนย์ตรัง คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ จำนวน 50 คน และกำหนดให้ผู้ป่วย 25 คนแรกเป็นกลุ่มควบคุม และอีก 25 คนเป็นกลุ่มทดลอง โดยจับคู่กลุ่มตัวอย่างทั้งสองให้มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันในด้านเพศและอายุ กลุ่มทดลองเข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการฟื้นฟูสภาพ ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองได้แก่ โปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตน ซึ่งนำแนวคิดการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของ Bandura (1997) มาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมจำนวน 4 ครั้งโดยใช้เวลาในการทดลองทั้งหมด 8 สัปดาห์ เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยกระดูกต้นขาหักที่ใส่โลหะยึดตรึงภายใน ซึ่งมีความตรงตามเนื้อหา และมีค่าความเที่ยงสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค เท่ากับ 0.88 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า คะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยกระดูกขาหักกลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
การวิจัยแบบกึ่งทดลอง ชนิดศึกษาสองกลุ่มวัดหลังการทดลองในครั้งนี้  มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายใน กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายในซึ่งเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูก โรงพยาบาลศูนย์ตรัง คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ จำนวน 50 คน และกำหนดให้ผู้ป่วย 25 คนแรกเป็นกลุ่มควบคุม และอีก 25 คนเป็นกลุ่มทดลอง โดยจับคู่กลุ่มตัวอย่างทั้งสองให้มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันในด้านเพศและอายุ กลุ่มทดลองเข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการฟื้นฟูสภาพ ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองได้แก่ โปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตน ซึ่งนำแนวคิดการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของ Bandura (1997) มาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมจำนวน 4 ครั้งโดยใช้เวลาในการทดลองทั้งหมด 8 สัปดาห์ เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยกระดูกต้นขาหักที่ใส่โลหะยึดตรึงภายใน ซึ่งมีความตรงตามเนื้อหา และมีค่าความเที่ยงสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค เท่ากับ 0.88 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า คะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยกระดูกขาหักกลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ข้อจำกัดการวิจัย
ข้อจำกัดการวิจัย
-
1.ไม่สามารถวัดได้ว่าผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายในมีกระดูกหักซ้ำหรือไม่ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลา ซึ่งเวลาที่จะสามารถประเมินได้คือระยะเวลา 3 – 6 เดือน
+
1. ไม่สามารถวัดได้ว่าผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายในมีกระดูกหักซ้ำ
-
2.ต้องมีการวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อของผู้ป่วยก่อนการทดลองและเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง เพื่อดูความแตกต่างภายหลังการทดลอง
+
หรือไม่ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลา ซึ่งเวลาที่จะสามารถประเมินได้คือระยะเวลา 3 – 6 เดือน
-
3.แบบสอบถามที่นำมาใช้มีภาษาที่กำกวมอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดความสับสนในการตอบแบบสอบถาม
+
2. ต้องมีการวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อของผู้ป่วยก่อนการทดลองและเปรียบเทียบ
 +
ระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง เพื่อดูความแตกต่างภายหลังการทดลอง
 +
3. แบบสอบถามที่นำมาใช้มีภาษาที่กำกวมอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดความสับสนในการตอบ
 +
แบบสอบถาม
การนำไปใช้ประโยชน์
การนำไปใช้ประโยชน์
พยาบาลที่ปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูก สามารถนำโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนไปประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายใน  ด้านการมีพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพ  ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นและมีประโยชน์ในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่เกิดตามมา จากการมีพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพหลังผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายในที่ไม่เหมาะสมของผู้ป่วย  นอกจากนี้ควรนำกิจกรรมอื่นๆเข้ามาร่วมกับพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพหลังการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายในเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
พยาบาลที่ปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูก สามารถนำโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนไปประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายใน  ด้านการมีพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพ  ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นและมีประโยชน์ในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่เกิดตามมา จากการมีพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพหลังผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายในที่ไม่เหมาะสมของผู้ป่วย  นอกจากนี้ควรนำกิจกรรมอื่นๆเข้ามาร่วมกับพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพหลังการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายในเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

รุ่นปัจจุบันของ 09:14, 3 ธันวาคม 2555

ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายใน Effect of Perceived Self-Efficacy Promoting Program on Rehabilitation Behavior in Patients with Femoral Fracture Receiving Internal Fixation


การวิจัยแบบกึ่งทดลอง ชนิดศึกษาสองกลุ่มวัดหลังการทดลองในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายใน กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายในซึ่งเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูก โรงพยาบาลศูนย์ตรัง คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ จำนวน 50 คน และกำหนดให้ผู้ป่วย 25 คนแรกเป็นกลุ่มควบคุม และอีก 25 คนเป็นกลุ่มทดลอง โดยจับคู่กลุ่มตัวอย่างทั้งสองให้มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันในด้านเพศและอายุ กลุ่มทดลองเข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการฟื้นฟูสภาพ ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองได้แก่ โปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตน ซึ่งนำแนวคิดการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของ Bandura (1997) มาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมจำนวน 4 ครั้งโดยใช้เวลาในการทดลองทั้งหมด 8 สัปดาห์ เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยกระดูกต้นขาหักที่ใส่โลหะยึดตรึงภายใน ซึ่งมีความตรงตามเนื้อหา และมีค่าความเที่ยงสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค เท่ากับ 0.88 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติทดสอบค่าที (t-test) ผลการวิจัยพบว่า คะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยกระดูกขาหักกลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ข้อจำกัดการวิจัย 1. ไม่สามารถวัดได้ว่าผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายในมีกระดูกหักซ้ำ หรือไม่ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลา ซึ่งเวลาที่จะสามารถประเมินได้คือระยะเวลา 3 – 6 เดือน 2. ต้องมีการวัดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อของผู้ป่วยก่อนการทดลองและเปรียบเทียบ ระหว่างกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง เพื่อดูความแตกต่างภายหลังการทดลอง 3. แบบสอบถามที่นำมาใช้มีภาษาที่กำกวมอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดความสับสนในการตอบ แบบสอบถาม การนำไปใช้ประโยชน์ พยาบาลที่ปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูก สามารถนำโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนไปประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมสุขภาพของผู้ป่วยกระดูกขาหักที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายใน ด้านการมีพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นและมีประโยชน์ในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่เกิดตามมา จากการมีพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพหลังผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายในที่ไม่เหมาะสมของผู้ป่วย นอกจากนี้ควรนำกิจกรรมอื่นๆเข้ามาร่วมกับพฤติกรรมการฟื้นฟูสภาพหลังการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงภายในเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

เครื่องมือส่วนตัว