การบริหารกายจิตแบบชี่กง
จาก ChulaPedia
(การแก้ไขหนึ่งรุ่นระหว่างรุ่นที่เปรียบเทียบไม่แสดงผล) | |||
แถว 1: | แถว 1: | ||
- | ผลของการจัดการอาการที่เน้นการบริหารกาย-จิตแบบชี่กงต่อความวิตกกังวลและความปวดในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดช่องท้องแบบฉุกเฉิน | + | '''ผลของการจัดการอาการที่เน้นการบริหารกาย-จิตแบบชี่กงต่อความวิตกกังวลและความปวดในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดช่องท้องแบบฉุกเฉิน''' |
+ | |||
(EFFECTS OF SYMPTOM MANAGEMENT FOCUSING ON QI-GONG PRACTICE PROGRAM ON ANXIETY AND PAIN AMONG THE EMERGENT ABDOMINAL SURGERY PATIENTS) | (EFFECTS OF SYMPTOM MANAGEMENT FOCUSING ON QI-GONG PRACTICE PROGRAM ON ANXIETY AND PAIN AMONG THE EMERGENT ABDOMINAL SURGERY PATIENTS) | ||
- | + | ในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดช่องท้องแบบฉุกเฉิน ส่วนใหญ่จะมาโรงพยาบาลด้วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและเฉียบพลันหรือมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร เมื่อแพทย์วินิจฉัยได้ว่าต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับการแก้ไขภาวะต่างๆ เพื่อให้มีความพร้อมต่อการผ่าตัด และต้องได้รับการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด ผู้ป่วยมีเวลาในการปรับตัวน้อยจึงรู้สึกวิตกกังวล เป็นทุกข์และกลัวผลของการผ่าตัด ความวิตกกังวลเกิดขึ้นทั้งในระยะก่อนการผ่าตัดและหลังการผ่าตัด ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกควบคุมหรือจัดการตนเองเกี่ยวกับความปวดและการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ลดลง ขาดความมั่นใจในการดูแลตนเอง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยหลังผ่าตัดได้ทั้งด้านร่างกาย เช่น ปวดแผลผ่าตัดมาก แผลแยก แผลติดเชื้อ และมีการใช้ยาแก้ปวดมากขึ้น ส่วนด้านจิตใจนั้นเกิดความวิตกกังวล ความเครียดและกลัวต่อความเจ็บปวดหลังผ่าตัดสูง เกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด ระยะเวลานอนในโรงพยาบาลนานกว่าปกติ ถูกแยกจากครอบครัวและสังคม สูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ป่วยมีความวิตกกังวลสูงจะทำให้เกิดความปวดหลังผ่าตัดและความรุนแรงของความปวดจะเพิ่มสูงขึ้น การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความวิตกกังวลและความปวดในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดช่องท้องแบบฉุกเฉิน ในกลุ่มทดลองก่อนและหลังการทดลอง และระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดช่องท้องแบบฉุกเฉิน หอผู้ป่วยศัลยกรรม ในโรงพยาบาล เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงซึ่งมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 40 ราย แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม 20 ราย และกลุ่มทดลอง 20 ราย โดยการจับคู่ให้กลุ่มตัวอย่างมีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของอายุ เพศ การวินิจฉัยโรค และชนิดของการผ่าตัด กลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ ส่วนกลุ่มทดลองได้รับการพยาบาลตามปกติและโปรแกรมการจัดการอาการที่เน้นการบริหารกาย-จิตแบบชี่กง ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ผู้วิจัยพัฒนาจากแนวคิดการจัดการอาการของ Dodd และคณะ (2001) ร่วมกับแนวคิดการบริหารกาย-จิตแบบชี่กง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติบรรยาย และสถิติทดสอบค่าที | |
- | + | ||
- | + | ||
+ | ผลการวิจัยพบว่า ความวิตกกังวลของกลุ่มทดลองภายหลังได้รับโปรแกรมฯ ต่ำกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมฯ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t=10.71, p<.05) และต่ำกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับการพยาบาลปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t=6.04, p<.05) ความปวดในกลุ่มทดลองหลังได้รับโปรแกรมฯ ในระยะ 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมงหลังผ่าตัดต่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t=1.58 และ1.89 ตามลำดับ, p<.05) | ||
โดย นางสาวจรินทร์ พวกยะ อาจารย์ที่ปรึกษา : รศ.ดร. สุรีพร ธนซิลป์ | โดย นางสาวจรินทร์ พวกยะ อาจารย์ที่ปรึกษา : รศ.ดร. สุรีพร ธนซิลป์ |
รุ่นปัจจุบันของ 02:45, 18 มิถุนายน 2556
ผลของการจัดการอาการที่เน้นการบริหารกาย-จิตแบบชี่กงต่อความวิตกกังวลและความปวดในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดช่องท้องแบบฉุกเฉิน
(EFFECTS OF SYMPTOM MANAGEMENT FOCUSING ON QI-GONG PRACTICE PROGRAM ON ANXIETY AND PAIN AMONG THE EMERGENT ABDOMINAL SURGERY PATIENTS)
ในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดช่องท้องแบบฉุกเฉิน ส่วนใหญ่จะมาโรงพยาบาลด้วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและเฉียบพลันหรือมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร เมื่อแพทย์วินิจฉัยได้ว่าต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับการแก้ไขภาวะต่างๆ เพื่อให้มีความพร้อมต่อการผ่าตัด และต้องได้รับการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด ผู้ป่วยมีเวลาในการปรับตัวน้อยจึงรู้สึกวิตกกังวล เป็นทุกข์และกลัวผลของการผ่าตัด ความวิตกกังวลเกิดขึ้นทั้งในระยะก่อนการผ่าตัดและหลังการผ่าตัด ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกควบคุมหรือจัดการตนเองเกี่ยวกับความปวดและการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ลดลง ขาดความมั่นใจในการดูแลตนเอง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยหลังผ่าตัดได้ทั้งด้านร่างกาย เช่น ปวดแผลผ่าตัดมาก แผลแยก แผลติดเชื้อ และมีการใช้ยาแก้ปวดมากขึ้น ส่วนด้านจิตใจนั้นเกิดความวิตกกังวล ความเครียดและกลัวต่อความเจ็บปวดหลังผ่าตัดสูง เกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด ระยะเวลานอนในโรงพยาบาลนานกว่าปกติ ถูกแยกจากครอบครัวและสังคม สูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น เมื่อผู้ป่วยมีความวิตกกังวลสูงจะทำให้เกิดความปวดหลังผ่าตัดและความรุนแรงของความปวดจะเพิ่มสูงขึ้น การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความวิตกกังวลและความปวดในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดช่องท้องแบบฉุกเฉิน ในกลุ่มทดลองก่อนและหลังการทดลอง และระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มควบคุม กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดช่องท้องแบบฉุกเฉิน หอผู้ป่วยศัลยกรรม ในโรงพยาบาล เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงซึ่งมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 40 ราย แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม 20 ราย และกลุ่มทดลอง 20 ราย โดยการจับคู่ให้กลุ่มตัวอย่างมีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของอายุ เพศ การวินิจฉัยโรค และชนิดของการผ่าตัด กลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ ส่วนกลุ่มทดลองได้รับการพยาบาลตามปกติและโปรแกรมการจัดการอาการที่เน้นการบริหารกาย-จิตแบบชี่กง ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ผู้วิจัยพัฒนาจากแนวคิดการจัดการอาการของ Dodd และคณะ (2001) ร่วมกับแนวคิดการบริหารกาย-จิตแบบชี่กง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติบรรยาย และสถิติทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า ความวิตกกังวลของกลุ่มทดลองภายหลังได้รับโปรแกรมฯ ต่ำกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมฯ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t=10.71, p<.05) และต่ำกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับการพยาบาลปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t=6.04, p<.05) ความปวดในกลุ่มทดลองหลังได้รับโปรแกรมฯ ในระยะ 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมงหลังผ่าตัดต่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t=1.58 และ1.89 ตามลำดับ, p<.05)
โดย นางสาวจรินทร์ พวกยะ อาจารย์ที่ปรึกษา : รศ.ดร. สุรีพร ธนซิลป์