“หนึ่งในสยาม” บทเพลงสร้างสรรค์

จาก ChulaPedia

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
 
(การแก้ไข 5 รุ่นระหว่างรุ่นที่เปรียบเทียบไม่แสดงผล)
แถว 13: แถว 13:
'''ช่วงที่ 2 ดนตรีสี่ภาค'''  นำแนวคิดและท่วงทำนองบางส่วนของเพลงพื้นบ้านสี่ภาคมาประยุกต์ใช้และนำลักษณะการบรรเลงเครื่องดนตรีพื้นบ้านมาให้เครื่องดนตรีตะวันตกบรรเลง  ช่วงดนตรีในแต่ละภาค  ดังนี้  
'''ช่วงที่ 2 ดนตรีสี่ภาค'''  นำแนวคิดและท่วงทำนองบางส่วนของเพลงพื้นบ้านสี่ภาคมาประยุกต์ใช้และนำลักษณะการบรรเลงเครื่องดนตรีพื้นบ้านมาให้เครื่องดนตรีตะวันตกบรรเลง  ช่วงดนตรีในแต่ละภาค  ดังนี้  
 +
''' ภาคกลาง'''  เลือกทำนองในท่อนสร้อยของเพลงเรือมาประยุกต์ใช้เป็นทำนองภาคกลาง
''' ภาคกลาง'''  เลือกทำนองในท่อนสร้อยของเพลงเรือมาประยุกต์ใช้เป็นทำนองภาคกลาง
แถว 20: แถว 21:
[[ไฟล์:siam_5.jpg]]
[[ไฟล์:siam_5.jpg]]
 +
 +
และนำทำนองเพลงฤาษีหลงถ้ำมาใช้ในบางช่วง  เพื่อสื่อถึงความเป็นดนตรีภาคเหนือมากขึ้น
 +
 +
[[ไฟล์:siam_6.jpg]]
 +
 +
ตัวอย่างทำนองเพลงฤาษีหลงถ้ำ  บรรเลงแนวเสียงฟลูต  โอโบ  คลาริเน็ต
 +
 +
[[ไฟล์:siam_9.jpg]]
 +
 +
'''ภาคอีสาน'''  นำลักษณะของเสียงที่เกิดจากการเป่าแคน  มาดัดแปลงให้กับเครื่องดนตรีตะวันตกบรรเลงแนวเสียงเครื่องสายด้วยวิธีการดีดสาย  จังหวะมีลักษณะเป็นโน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้น    ประจุดและเว้นเสียงด้วยโน้ตตัวหยุดเขบ็ตสองชั้น  ทำให้มีช่องว่างของเสียงคล้ายกับจังหวะการใช้ลมในการเป่าแคน  บรรเลงแนวเสียงฟลูต  คลาริเน็ต  โอโบ  บาสซูน
 +
 +
[[ไฟล์:siam_8.jpg]]
 +
 +
'''ภาคใต้'''  ทำนองดัดแปลงมาจากการบรรเลงฆ้องคู่  โดยใช้ลักษณะเสียงของฆ้องคู่  ช่วงขึ้นต้นบรรเลงแนวเสียงไวบราโฟน
 +
 +
[[ไฟล์:siam_10.jpg]]
 +
 +
และใช้เทคนิคการคัดทำนอง  โดยนำทำนองบางส่วนของเพลงหนังตะลุง-ตันหยง  มาสร้างทำนองบางช่วงของเพลง  สื่อถึงความเป็นภาคใต้มากขึ้น  บรรเลงแนวเสียงฟลูต  คลาริเน็ต  ไวโอลินหนึ่ง  ไวโอลินสอง
 +
 +
[[ไฟล์:siam_11.jpg]]
 +
 +
[[ไฟล์:siam_12.jpg]]
 +
 +
'''ช่วงที่ 3  บทส่งท้าย'''  ทำนองประยุกต์มาจากการเป่าแตรของทหารในพิธีสวนสนาม  ทำนองมีการกระโดดของเสียงแบบโน้ตอาร์เปโจ (Arpeggio) ให้ความรู้สึกเข้มแข็ง  สง่างามและมีพลัง บรรเลงแนวเสียงทรัมเป็ต
 +
 +
[[ไฟล์:siam_13.jpg]]
 +
 +
ช่วงสุดท้ายขับร้องประสานเสียง  เนื้อร้องกล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และเป็นการถวายพระพร
 +
 +
[[ไฟล์:siam_14.jpg]]
 +
 +
แนวดนตรีกำหนดให้มีอารมณ์เพลงที่เบาลงและนุ่มนวล  เพื่อสื่อถึงความซาบซึ้งและความภาคภูมิใจที่มีต่อพระองค์
 +
 +
[[ไฟล์:siam_15.jpg]]
 +
 +
[[ไฟล์:siam_16.jpg]]
 +
 +
       
 +
'''ผู้แต่ง''':นางถาวรดา  จันทนะสุต รหัสนิสิต  นิสิตหลักสูตรศิลปกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต  คณะศิลปกรรมศาสตร์

รุ่นปัจจุบันของ 02:38, 12 มิถุนายน 2556

บทประพันธ์เพลง “หนึ่งในสยาม” เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช แนวทางการประพันธ์เนื้อร้อง ศึกษาลักษณะการใช้บทกวีนิพนธ์ ถ้อยคำที่ได้ร้อยกรองหรือเรียบเรียง ตามกฏเกณฑ์ที่ได้วางไว้ในฉันทลักษณ์ เนื้อร้องแสดงออกถึงความจงรักภักดี ลักษณะทางดนตรี บทเพลงแบ่งเป็น 3 ช่วง

ช่วงที่ 1 โหมโรง ประพันธ์บทกวีนิพนธ์ประเภทกาพย์ฉบัง 16 ใช้เป็นบทสดุดี โดยอ่านบทกวีนิพนธ์ไปพร้อมกับวงออร์เคสตรา ไฟล์:siam_1.jpg

และเป็นการนำเสนอทำนองหลัก สร้างจากบันไดเสียงเพนตาโทนิก (Pentatonic Scale) เรียกทำนองนี้ว่า “ทำนองถวายพระพร” ลักษณะทำนองที่ฟังไม่ซับซ้อนและความรู้สึกแบบไทย เพื่อเทิดพระเกียรติองค์พระมหากษัตริย์ของไทย

ไฟล์:siam_2.jpg

ตัวอย่างการบรรเลงทำนองถวายพระพรพร้อมกัน โดยกลุ่มเครื่องลมทองเหลือง เครื่องสายและเครื่องลมไม้

ไฟล์:siam_3.jpg

ช่วงที่ 2 ดนตรีสี่ภาค นำแนวคิดและท่วงทำนองบางส่วนของเพลงพื้นบ้านสี่ภาคมาประยุกต์ใช้และนำลักษณะการบรรเลงเครื่องดนตรีพื้นบ้านมาให้เครื่องดนตรีตะวันตกบรรเลง ช่วงดนตรีในแต่ละภาค ดังนี้

ภาคกลาง เลือกทำนองในท่อนสร้อยของเพลงเรือมาประยุกต์ใช้เป็นทำนองภาคกลาง

ไฟล์:siam_4.jpg

ภาคเหนือ แนวทำนองมาจากลักษณะการตีกลอง เรียกว่า “กลองตึ่งนง” การตีกลองจังหวะที่เป็นการสอดรับกันระหว่างกลองกับฉาบ และนำมาประยุกต์ใช้กับเครื่องดนตรีตะวันตก

ไฟล์:siam_5.jpg

และนำทำนองเพลงฤาษีหลงถ้ำมาใช้ในบางช่วง เพื่อสื่อถึงความเป็นดนตรีภาคเหนือมากขึ้น

ไฟล์:siam_6.jpg

ตัวอย่างทำนองเพลงฤาษีหลงถ้ำ บรรเลงแนวเสียงฟลูต โอโบ คลาริเน็ต

ไฟล์:siam_9.jpg

ภาคอีสาน นำลักษณะของเสียงที่เกิดจากการเป่าแคน มาดัดแปลงให้กับเครื่องดนตรีตะวันตกบรรเลงแนวเสียงเครื่องสายด้วยวิธีการดีดสาย จังหวะมีลักษณะเป็นโน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้น ประจุดและเว้นเสียงด้วยโน้ตตัวหยุดเขบ็ตสองชั้น ทำให้มีช่องว่างของเสียงคล้ายกับจังหวะการใช้ลมในการเป่าแคน บรรเลงแนวเสียงฟลูต คลาริเน็ต โอโบ บาสซูน

ไฟล์:siam_8.jpg

ภาคใต้ ทำนองดัดแปลงมาจากการบรรเลงฆ้องคู่ โดยใช้ลักษณะเสียงของฆ้องคู่ ช่วงขึ้นต้นบรรเลงแนวเสียงไวบราโฟน

ไฟล์:siam_10.jpg

และใช้เทคนิคการคัดทำนอง โดยนำทำนองบางส่วนของเพลงหนังตะลุง-ตันหยง มาสร้างทำนองบางช่วงของเพลง สื่อถึงความเป็นภาคใต้มากขึ้น บรรเลงแนวเสียงฟลูต คลาริเน็ต ไวโอลินหนึ่ง ไวโอลินสอง

ไฟล์:siam_11.jpg

ไฟล์:siam_12.jpg

ช่วงที่ 3 บทส่งท้าย ทำนองประยุกต์มาจากการเป่าแตรของทหารในพิธีสวนสนาม ทำนองมีการกระโดดของเสียงแบบโน้ตอาร์เปโจ (Arpeggio) ให้ความรู้สึกเข้มแข็ง สง่างามและมีพลัง บรรเลงแนวเสียงทรัมเป็ต

ไฟล์:siam_13.jpg

ช่วงสุดท้ายขับร้องประสานเสียง เนื้อร้องกล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และเป็นการถวายพระพร

ไฟล์:siam_14.jpg

แนวดนตรีกำหนดให้มีอารมณ์เพลงที่เบาลงและนุ่มนวล เพื่อสื่อถึงความซาบซึ้งและความภาคภูมิใจที่มีต่อพระองค์

ไฟล์:siam_15.jpg

ไฟล์:siam_16.jpg


ผู้แต่ง:นางถาวรดา จันทนะสุต รหัสนิสิต นิสิตหลักสูตรศิลปกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต คณะศิลปกรรมศาสตร์

เครื่องมือส่วนตัว