Chuchaat vision
จาก ChulaPedia
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย ' '''ทำตัวหนาชูชาติทรรศน์ : ว่าด้วยเรื่องการศึกษ…') |
(→ชูชาติทรรศน์ : ว่าด้วยเรื่องการศึกษา) |
||
(การแก้ไข 24 รุ่นระหว่างรุ่นที่เปรียบเทียบไม่แสดงผล) | |||
แถว 1: | แถว 1: | ||
- | + | <font size=3> | |
+ | == '''ชูชาติทรรศน์ : ว่าด้วยเรื่องการศึกษา'''== | ||
+ | รองศาสตราจารย์ชูชาติ ธรรมเจริญ Chuchaat.t@chula.ac.th | ||
- | |||
- | |||
- | + | แม้ผู้เขียนจะมีประสบการณ์ด้านการสอนเคมีขั้นสูงที่ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มานานกว่า 37 ปีต้องยอมรับความจริงว่าผู้เขียนมิใช่ | |
- | + | นักการศึกษาเนื่องจากมิได้เข้าศึกษาในหลักสูตรเกี่ยวกับการศึกษาและไม่เคยเรียนรู้วิชาครูจากการเข้าชั้นเรียนแม้แต่ชั่วโมงเดียวการหาความรู้ทางการศึกษาทำโดย | |
- | + | ศึกษาด้วยตนเอง สังเกตวิธีการสอนของปรมาจารย์ผู้มากประสบการณ์แบบที่ชาวบ้านเรียกว่า '''''"ครูพักรักจำ" '''''แล้วนำสิ่งดังกล่าวมา"''' "ปรับ-ปรุง-เปลี่ยน-แปลง แก้ไข"''''' | |
- | + | ให้ได้วิธีการที่น่าจะดีพอในระดับหนึ่งในการถ่ายทอดความรู้ไปสู่นิสิต นักศึกษา ตลอดจนภาคประชาชน | |
- | + | ||
- | + | ||
- | + | ||
- | + | ||
- | |||
- | |||
- | |||
- | + | โดยความเห็นส่วนตัวนั้นหน้าที่ของ '''"ครู"''' หรือ ผู้สอน ผู้บรรยาย องค์ปาฐก แล้วแต่จะเรียกขานคือ '''"Simplify a complicated thing"''' มิใช่''' "Complicated a simple thing" ''' | |
- | + | และได้นำแนวคิดดังกล่าวแล้วมาปฎิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเรียนการสอนซึ่งเน้นประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นหลัก (Outcome) โดยเริ่มจากการ | |
+ | วางกรอบขององค์ความรู้ในภาพรวมเพื่อให้ผู้เรียนได้ทราบสถานภาพโดยรวมของวิชาที่ตนเองกำลังศึกษาอยู่แล้วจึงระบุความรู้เฉพาะที่ต้องการศึกษา อันจะนำมาซึ่งความ | ||
+ | เชื่อมโยงของตัวศาสตร์เองกับศาสตร์อื่นๆโดยมุ่งเน้นถึง:'''''รู้-เข้าใจ-ใช้เป็น-เห็นปัญหา-ค้นคว้าได้-ทำนายถูก-ปลูกผลเอง-เคร่งคุณธรรม''''' | ||
- | |||
- | + | ในการเรียนรู้นั้นสิ่งที่นิสิตต้องได้คือมโนทัศน์ และ Mechanical procedures ซึ่งมุ่งเน้นทั้งทางด้าน mathematical meaning และ physical meaning | |
- | + | ควบคู่กันไปจะแยกออกจากกันมิได้เฉกเช่นร่างกายและจิตใจไม่สามารถแยกออกจากกันฉันใดก็ฉันนั้น | |
- | + | ||
- | + | ||
- | + | ||
- | + | แม้การศึกษาจะไม่มีสูตรสำเร็จ(panacea)แต่พอประมวลได้ว่าคนเราแม้จะศึกษาสาขาวิชาใดๆในฐานะที่เป็นมนุษย์ควรมีสิ่งต่อไปนี้ร่วมกัน คือ | |
- | |||
- | |||
- | |||
- | |||
- | |||
- | + | 1.สามัญสำนึกผนวกกับ legal mind "จะทำให้ รู้-ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี" | |
- | + | 2.ตรรกะ-ภาษา-ธรรมมะ ทำให้คิดอย่างเป็นระบบ มีเหตุมีผล สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ | |
- | + | ||
- | + | ||
+ | 3.ศรัทธา-ปัญญา-วิริยะ-สมาธิ-สติ ซึ่งได้แก่''' "พละ 5" '''อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จที่พึงประสงค์ มนุษย์ผู้เป็น '''"ศึกษิต" '''จะต้องกล้าทำ-กล้ารับ-กกล้าเผชิญ ต่อสิ่งที่ | ||
+ | ตัวเองกระทำซึ่งเป็นเกียรติยศของคน | ||
- | |||
- | + | นอกจากนี้ยังต้องถึงพร้อมในแง่ '''''รู้เหตุ-รู้ผล-รู้ตน-รู้ประมาณ-รู้กาลเวลา-รู้บุคคล และรู้ชุมชน''''' โดยสามารถรักษา '''''ภูมิฐาน-ภูมิรู้-ภูมิธรรม''''' แห่งตนให้ดำรงอยู่ | |
+ | ตลอดไปอย่างประพฤติตนเป็น ''"Devil Advocate"'' คิดในแง่บวก อย่าคิดในแง่ลบยึดหลักในการคิดเรื่องใด ๆ ก็ตามง่าย ๆ ดังนี้ | ||
+ | '''''Think globally,''''' | ||
- | + | '''''Speak regionally,''''' | |
- | + | ||
- | + | '''''Do locally.''''' | |
- | + | ||
- | + | ||
- | + | จากที่เกริ่นมาทั้งหมดนั้นจะพบว่าพื้นฐานหรือรากฐานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องวางรากฐานที่มั่นคง ถ้าต้องการสร้างคนให้มีความ | |
- | + | พร้อมในทุกด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้นต้องเริ่มต้นที่ระบบการศึกษาที่เหมาะสมมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง (สามารถนำไปใช้งานได้จริง | |
+ | ไม่ใช่แค่แสดงโวหารหรือเพียงการอภิปรายเท่านั้น) | ||
+ | |||
+ | |||
+ | การศึกษาให้ได้มาซึ่งการเป็น''' "ศึกษิต"''' นั้นกล่าวอย่างง่ายคือ | ||
+ | '''''"Education is STARS"''''' | ||
+ | |||
+ | '''S - student''' | ||
+ | |||
+ | '''T - teaching''' | ||
+ | |||
+ | '''A - administration''' | ||
+ | |||
+ | '''R - resources''' | ||
+ | |||
+ | '''S - social''' | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ดังนั้นการจัดการศึกษาของชาติจึงต้องคำนึงถึงองค์ประกอบใน''''' "STARS"''''' ให้ครบถ้วนวางแผนการดำเนินงานเตรียมความพร้อม หลักสูตรที่ทันสมัย อุปกรณืการเรียน | ||
+ | การสอน วิธีการสอน สื่อการสอน ภาพสังคม ตลอดจนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการกำหนดเป้าหมายของการศึกษาให้ได้มาซึ่งความเป็น "ศึกษิต" คิดเป็น วิเคราะห์เป็น | ||
+ | สังเคราะห์เป็น สร้างองค์ความรู้ได้ เข้าถึงกระบวนการสร้างคนผ่านการศึกษาโดยเน้น "กระบวนการทางวิทยาศาสตร์" ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลักคือ | ||
+ | |||
+ | '''1.Problem solving ''' | ||
+ | |||
+ | '''2.Reasoning and Proof ''' | ||
+ | |||
+ | '''3.Communication (Conclusion) ''' | ||
+ | |||
+ | '''4.Connection ''' | ||
+ | |||
+ | '''5.Re-presentation ''' | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ในการปฏิรูปการศึกษาจำต้องทำให้ "ศึกษิต" มี | ||
+ | |||
+ | '''(I) Social responsibility ''' | ||
+ | |||
+ | '''(II) Employability in Workplace ''' | ||
+ | |||
+ | '''(III) Lifelong learning ''' | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ท้ายที่สุดนี้ผู้เขียนหวังว่าข้อเขียนนี้คงมิใช่เสียงนกเสียงกา แต่จะเป็นเสียงดังกึกก้องกำปนาทของมหาสมุทรเมื่อกระทบโสตประสาทของผู้มีอำนาจและความรับผิด | ||
+ | ชอบต่อวงการศึกษาไทยจักได้ดำเนินการปฏิรูปการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้เกิด '''"ศึกษิต"''' ให้จงได้ แต่มิใช่อุ้งมือของคนหน้าเดิมไม่กี่คนที่คุมชะตา | ||
+ | การศึกษาของชาติที่ล้มลุกคุกคานมาไม่ทราบกี่ระลอกแล้ว ยังหลงตัวเองโดยขอโอกาศปฏิรูปการศึกษาภายใต้วังวลที่ไม่เคยประสบผลสำเร็จเลย ยิ่งปฏิรูปดารศึกษา | ||
+ | มากเท่าใดก็จะพบความล้มเหลวแห่งวงการศึกษามากเท่านั้น | ||
+ | |||
+ | |||
+ | อนิจจาวงการศึกษาไทย ฤาจะถึงคราวต้องล้มสลายชั่ยกัลปาวสาน. | ||
+ | |||
+ | |||
+ | Kalos kagathos | ||
+ | |||
+ | Von Enos Cornelius | ||
+ | |||
+ | Dozent La Sapienza | ||
+ | |||
+ | χουχαατ θαμμαχαροεν | ||
+ | |||
+ | 19/3/2011 |
รุ่นปัจจุบันของ 09:32, 20 เมษายน 2554
ชูชาติทรรศน์ : ว่าด้วยเรื่องการศึกษา
รองศาสตราจารย์ชูชาติ ธรรมเจริญ Chuchaat.t@chula.ac.th
แม้ผู้เขียนจะมีประสบการณ์ด้านการสอนเคมีขั้นสูงที่ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มานานกว่า 37 ปีต้องยอมรับความจริงว่าผู้เขียนมิใช่
นักการศึกษาเนื่องจากมิได้เข้าศึกษาในหลักสูตรเกี่ยวกับการศึกษาและไม่เคยเรียนรู้วิชาครูจากการเข้าชั้นเรียนแม้แต่ชั่วโมงเดียวการหาความรู้ทางการศึกษาทำโดย
ศึกษาด้วยตนเอง สังเกตวิธีการสอนของปรมาจารย์ผู้มากประสบการณ์แบบที่ชาวบ้านเรียกว่า "ครูพักรักจำ" แล้วนำสิ่งดังกล่าวมา" "ปรับ-ปรุง-เปลี่ยน-แปลง แก้ไข"
ให้ได้วิธีการที่น่าจะดีพอในระดับหนึ่งในการถ่ายทอดความรู้ไปสู่นิสิต นักศึกษา ตลอดจนภาคประชาชน
โดยความเห็นส่วนตัวนั้นหน้าที่ของ "ครู" หรือ ผู้สอน ผู้บรรยาย องค์ปาฐก แล้วแต่จะเรียกขานคือ "Simplify a complicated thing" มิใช่ "Complicated a simple thing"
และได้นำแนวคิดดังกล่าวแล้วมาปฎิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเรียนการสอนซึ่งเน้นประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นหลัก (Outcome) โดยเริ่มจากการ
วางกรอบขององค์ความรู้ในภาพรวมเพื่อให้ผู้เรียนได้ทราบสถานภาพโดยรวมของวิชาที่ตนเองกำลังศึกษาอยู่แล้วจึงระบุความรู้เฉพาะที่ต้องการศึกษา อันจะนำมาซึ่งความ
เชื่อมโยงของตัวศาสตร์เองกับศาสตร์อื่นๆโดยมุ่งเน้นถึง:รู้-เข้าใจ-ใช้เป็น-เห็นปัญหา-ค้นคว้าได้-ทำนายถูก-ปลูกผลเอง-เคร่งคุณธรรม
ในการเรียนรู้นั้นสิ่งที่นิสิตต้องได้คือมโนทัศน์ และ Mechanical procedures ซึ่งมุ่งเน้นทั้งทางด้าน mathematical meaning และ physical meaning
ควบคู่กันไปจะแยกออกจากกันมิได้เฉกเช่นร่างกายและจิตใจไม่สามารถแยกออกจากกันฉันใดก็ฉันนั้น
แม้การศึกษาจะไม่มีสูตรสำเร็จ(panacea)แต่พอประมวลได้ว่าคนเราแม้จะศึกษาสาขาวิชาใดๆในฐานะที่เป็นมนุษย์ควรมีสิ่งต่อไปนี้ร่วมกัน คือ
1.สามัญสำนึกผนวกกับ legal mind "จะทำให้ รู้-ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี"
2.ตรรกะ-ภาษา-ธรรมมะ ทำให้คิดอย่างเป็นระบบ มีเหตุมีผล สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
3.ศรัทธา-ปัญญา-วิริยะ-สมาธิ-สติ ซึ่งได้แก่ "พละ 5" อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จที่พึงประสงค์ มนุษย์ผู้เป็น "ศึกษิต" จะต้องกล้าทำ-กล้ารับ-กกล้าเผชิญ ต่อสิ่งที่ ตัวเองกระทำซึ่งเป็นเกียรติยศของคน
นอกจากนี้ยังต้องถึงพร้อมในแง่ รู้เหตุ-รู้ผล-รู้ตน-รู้ประมาณ-รู้กาลเวลา-รู้บุคคล และรู้ชุมชน โดยสามารถรักษา ภูมิฐาน-ภูมิรู้-ภูมิธรรม แห่งตนให้ดำรงอยู่
ตลอดไปอย่างประพฤติตนเป็น "Devil Advocate" คิดในแง่บวก อย่าคิดในแง่ลบยึดหลักในการคิดเรื่องใด ๆ ก็ตามง่าย ๆ ดังนี้
Think globally,
Speak regionally,
Do locally.
จากที่เกริ่นมาทั้งหมดนั้นจะพบว่าพื้นฐานหรือรากฐานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องวางรากฐานที่มั่นคง ถ้าต้องการสร้างคนให้มีความ
พร้อมในทุกด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้นต้องเริ่มต้นที่ระบบการศึกษาที่เหมาะสมมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง (สามารถนำไปใช้งานได้จริง
ไม่ใช่แค่แสดงโวหารหรือเพียงการอภิปรายเท่านั้น)
การศึกษาให้ได้มาซึ่งการเป็น "ศึกษิต" นั้นกล่าวอย่างง่ายคือ
"Education is STARS"
S - student
T - teaching
A - administration
R - resources
S - social
ดังนั้นการจัดการศึกษาของชาติจึงต้องคำนึงถึงองค์ประกอบใน "STARS" ให้ครบถ้วนวางแผนการดำเนินงานเตรียมความพร้อม หลักสูตรที่ทันสมัย อุปกรณืการเรียน
การสอน วิธีการสอน สื่อการสอน ภาพสังคม ตลอดจนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการกำหนดเป้าหมายของการศึกษาให้ได้มาซึ่งความเป็น "ศึกษิต" คิดเป็น วิเคราะห์เป็น
สังเคราะห์เป็น สร้างองค์ความรู้ได้ เข้าถึงกระบวนการสร้างคนผ่านการศึกษาโดยเน้น "กระบวนการทางวิทยาศาสตร์" ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลักคือ
1.Problem solving
2.Reasoning and Proof
3.Communication (Conclusion)
4.Connection
5.Re-presentation
ในการปฏิรูปการศึกษาจำต้องทำให้ "ศึกษิต" มี
(I) Social responsibility
(II) Employability in Workplace
(III) Lifelong learning
ท้ายที่สุดนี้ผู้เขียนหวังว่าข้อเขียนนี้คงมิใช่เสียงนกเสียงกา แต่จะเป็นเสียงดังกึกก้องกำปนาทของมหาสมุทรเมื่อกระทบโสตประสาทของผู้มีอำนาจและความรับผิด
ชอบต่อวงการศึกษาไทยจักได้ดำเนินการปฏิรูปการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้เกิด "ศึกษิต" ให้จงได้ แต่มิใช่อุ้งมือของคนหน้าเดิมไม่กี่คนที่คุมชะตา
การศึกษาของชาติที่ล้มลุกคุกคานมาไม่ทราบกี่ระลอกแล้ว ยังหลงตัวเองโดยขอโอกาศปฏิรูปการศึกษาภายใต้วังวลที่ไม่เคยประสบผลสำเร็จเลย ยิ่งปฏิรูปดารศึกษา
มากเท่าใดก็จะพบความล้มเหลวแห่งวงการศึกษามากเท่านั้น
อนิจจาวงการศึกษาไทย ฤาจะถึงคราวต้องล้มสลายชั่ยกัลปาวสาน.
Kalos kagathos
Von Enos Cornelius
Dozent La Sapienza
χουχαατ θαμμαχαροεν
19/3/2011