Chuchaat vision

จาก ChulaPedia

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(ชูชาติทรรศน์ : ว่าด้วยเรื่องการศึกษา)
แถว 8: แถว 8:
ศึกษาด้วยตนเอง สังเกตวิธีการสอนของปรมาจารย์ผู้มากประสบการณ์แบบที่ชาวบ้านเรียกว่า "ครูพักรักจำ" แล้วนำสิ่งดังกล่าวมา" "ปรับ-ปรุง-เปลี่ยน-แปลง แก้ไข"
ศึกษาด้วยตนเอง สังเกตวิธีการสอนของปรมาจารย์ผู้มากประสบการณ์แบบที่ชาวบ้านเรียกว่า "ครูพักรักจำ" แล้วนำสิ่งดังกล่าวมา" "ปรับ-ปรุง-เปลี่ยน-แปลง แก้ไข"
ให้ได้วิธีการที่น่าจะดีพอในระดับหนึ่งในการถ่ายทอดความรู้ไปสู่นิสิต นักศึกษา ตลอดจนภาคประชาชน
ให้ได้วิธีการที่น่าจะดีพอในระดับหนึ่งในการถ่ายทอดความรู้ไปสู่นิสิต นักศึกษา ตลอดจนภาคประชาชน
 +
โดยความเห็นส่วนตัวนั้นหน้าที่ของ "ครู" หรือ ผู้สอน ผู้บรรยาย องค์ปาฐก แล้วแต่จะเรียกขานคือ "Simplify a complicated thing" มิใช่ "Complicated a simple thing"  
โดยความเห็นส่วนตัวนั้นหน้าที่ของ "ครู" หรือ ผู้สอน ผู้บรรยาย องค์ปาฐก แล้วแต่จะเรียกขานคือ "Simplify a complicated thing" มิใช่ "Complicated a simple thing"  
แถว 13: แถว 14:
วางกรอบขององค์ความรู้ในภาพรวมเพื่อให้ผู้เรียนได้ทราบสถานภาพโดยรวมของวิชาที่ตนเองกำลังศึกษาอยู่แล้วจึงระบุความรู้เฉพาะที่ต้องการศึกษา อันจะนำมาซึ่งความ
วางกรอบขององค์ความรู้ในภาพรวมเพื่อให้ผู้เรียนได้ทราบสถานภาพโดยรวมของวิชาที่ตนเองกำลังศึกษาอยู่แล้วจึงระบุความรู้เฉพาะที่ต้องการศึกษา อันจะนำมาซึ่งความ
เชื่อมโยงของตัวศาสตร์เองกับศาสตร์อื่นๆโดยมุ่งเน้นถึง:'''''รู้-เข้าใจ-ใช้เป็น-เห็นปัญหา-ค้นคว้าได้-ทำนายถูก-ปลูกผลเอง-เคร่งคุณธรรม'''''
เชื่อมโยงของตัวศาสตร์เองกับศาสตร์อื่นๆโดยมุ่งเน้นถึง:'''''รู้-เข้าใจ-ใช้เป็น-เห็นปัญหา-ค้นคว้าได้-ทำนายถูก-ปลูกผลเอง-เคร่งคุณธรรม'''''
 +
ในการเรียนรู้นั้นสิ่งที่นิสิตต้องได้คือมโนทัศน์ และ Mechanical procedures ซึ่งมุ่งเน้นทั้งทางด้าน mathematical meaning และ physical meaning  
ในการเรียนรู้นั้นสิ่งที่นิสิตต้องได้คือมโนทัศน์ และ Mechanical procedures ซึ่งมุ่งเน้นทั้งทางด้าน mathematical meaning และ physical meaning  
แถว 28: แถว 30:
ตลอดไปอย่างประพฤติตนเป็น ''"Devil Advocate"'' คิดในแง่บวก อย่าคิดในแง่ลบยึดหลักในการคิดเรื่องใด ๆ ก็ตามง่าย ๆ ดังนี้
ตลอดไปอย่างประพฤติตนเป็น ''"Devil Advocate"'' คิดในแง่บวก อย่าคิดในแง่ลบยึดหลักในการคิดเรื่องใด ๆ ก็ตามง่าย ๆ ดังนี้
-
Think globally,
+
'''''Think globally,'''''
-
Speak regionally,
+
'''''Speak regionally,'''''
 +
 
 +
'''''Do locally.'''''
-
Do locally.
 
จากที่เกริ่นมาทั้งหมดนั้นจะพบว่าพื้นฐานหรือรากฐานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องวางรากฐานที่มั่นคง ถ้าต้องการสร้างคนให้มีความ
จากที่เกริ่นมาทั้งหมดนั้นจะพบว่าพื้นฐานหรือรากฐานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องวางรากฐานที่มั่นคง ถ้าต้องการสร้างคนให้มีความ
พร้อมในทุกด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้นต้องเริ่มต้นที่ระบบการศึกษาที่เหมาะสมมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง (สามารถนำไปใช้งานได้จริง
พร้อมในทุกด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้นต้องเริ่มต้นที่ระบบการศึกษาที่เหมาะสมมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง (สามารถนำไปใช้งานได้จริง
ไม่ใช่แค่แสดงโวหารหรือเพียงการอภิปรายเท่านั้น)
ไม่ใช่แค่แสดงโวหารหรือเพียงการอภิปรายเท่านั้น)
 +
การศึกษาให้ได้มาซึ่งการเป็น "ศึกษิต" นั้นกล่าวอย่างง่ายคือ
การศึกษาให้ได้มาซึ่งการเป็น "ศึกษิต" นั้นกล่าวอย่างง่ายคือ
-
"Education is STARS"
+
'''''"Education is STARS"'''''
-
S - student
+
'''S - student'''
-
T - teaching
+
'''T - teaching'''
-
A - administration
+
'''A - administration'''
-
R - resources
+
'''R - resources'''
-
S - social
+
'''S - social'''
-
ดังนั้นการจัดการศึกษาของชาติจึงต้องคำนึงถึงองค์ประกอบใน "STARS" ให้ครบถ้วนวางแผนการดำเนินงานเตรียมความพร้อม หลักสูตรที่ทันสมัย อุปกรณืการเรียน
+
 
 +
ดังนั้นการจัดการศึกษาของชาติจึงต้องคำนึงถึงองค์ประกอบใน''''' "STARS"''''' ให้ครบถ้วนวางแผนการดำเนินงานเตรียมความพร้อม หลักสูตรที่ทันสมัย อุปกรณืการเรียน
การสอน วิธีการสอน สื่อการสอน ภาพสังคม ตลอดจนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการกำหนดเป้าหมายของการศึกษาให้ได้มาซึ่งความเป็น "ศึกษิต" คิดเป็น วิเคราะห์เป็น  
การสอน วิธีการสอน สื่อการสอน ภาพสังคม ตลอดจนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการกำหนดเป้าหมายของการศึกษาให้ได้มาซึ่งความเป็น "ศึกษิต" คิดเป็น วิเคราะห์เป็น  
สังเคราะห์เป็น สร้างองค์ความรู้ได้ เข้าถึงกระบวนการสร้างคนผ่านการศึกษาโดยเน้น "กระบวนการทางวิทยาศาสตร์" ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลักคือ
สังเคราะห์เป็น สร้างองค์ความรู้ได้ เข้าถึงกระบวนการสร้างคนผ่านการศึกษาโดยเน้น "กระบวนการทางวิทยาศาสตร์" ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลักคือ
-
1.Problem solving  
+
'''1.Problem solving '''
-
2.Reasoning and Proof  
+
'''2.Reasoning and Proof '''
-
3.Communication (Conclusion)  
+
'''3.Communication (Conclusion) '''
-
4.Connection  
+
'''4.Connection '''
 +
 
 +
'''5.Re-presentation '''
-
5.Re-presentation
 
ในการปฏิรูปการศึกษาจำต้องทำให้ "ศึกษิต" มี
ในการปฏิรูปการศึกษาจำต้องทำให้ "ศึกษิต" มี
-
(I)    Social responsibility  
+
'''(I)    Social responsibility '''
 +
 
 +
'''(II)  Employability in Workplace  '''
-
(II)   Employability in Workplace  
+
'''(IIILifelong learning '''
-
(III)  Lifelong learning
 
ท้ายที่สุดนี้ผู้เขียนหวังว่าข้อเขียนนี้คงมิใช่เสียงนกเสียงกา แต่จะเป็นเสียงดังกึกก้องกำปนาทของมหาสมุทรเมื่อกระทบโสตประสาทของผู้มีอำนาจและความรับผิด
ท้ายที่สุดนี้ผู้เขียนหวังว่าข้อเขียนนี้คงมิใช่เสียงนกเสียงกา แต่จะเป็นเสียงดังกึกก้องกำปนาทของมหาสมุทรเมื่อกระทบโสตประสาทของผู้มีอำนาจและความรับผิด
-
ชอบต่อวงการศึกษาไทยจักได้ดำเนินการปฏิรูปการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้เกิด "ศึกษิต" ให้จงได้ แต่มิใช่อุ้งมือของคนหน้าเดิมไม่กี่คนที่คุมชะตา
+
ชอบต่อวงการศึกษาไทยจักได้ดำเนินการปฏิรูปการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้เกิด '''"ศึกษิต"''' ให้จงได้ แต่มิใช่อุ้งมือของคนหน้าเดิมไม่กี่คนที่คุมชะตา
การศึกษาของชาติที่ล้มลุกคุกคานมาไม่ทราบกี่ระลอกแล้ว ยังหลงตัวเองโดยขอโอกาศปฏิรูปการศึกษาภายใต้วังวลที่ไม่เคยประสบผลสำเร็จเลย ยิ่งปฏิรูปดารศึกษา
การศึกษาของชาติที่ล้มลุกคุกคานมาไม่ทราบกี่ระลอกแล้ว ยังหลงตัวเองโดยขอโอกาศปฏิรูปการศึกษาภายใต้วังวลที่ไม่เคยประสบผลสำเร็จเลย ยิ่งปฏิรูปดารศึกษา
มากเท่าใดก็จะพบความล้มเหลวแห่งวงการศึกษามากเท่านั้น
มากเท่าใดก็จะพบความล้มเหลวแห่งวงการศึกษามากเท่านั้น
-
อนิจจาวงการศึกษาไทย ฤาจะถึงคราวต้องล้มสลายชั่ยกัลปาวสาน.                                        
+
อนิจจาวงการศึกษาไทย ฤาจะถึงคราวต้องล้มสลายชั่ยกัลปาวสาน.    
 +
                                 
        
        
Kalos kagathos  
Kalos kagathos  

การปรับปรุง เมื่อ 09:30, 20 เมษายน 2554

ชูชาติทรรศน์ : ว่าด้วยเรื่องการศึกษา

รองศาสตราจารย์ชูชาติ ธรรมเจริญ Chuchaat.t@chula.ac.th


แม้ผู้เขียนจะมีประสบการณ์ด้านการสอนเคมีขั้นสูงที่ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มานานกว่า 37 ปีต้องยอมรับความจริงว่าผู้เขียนมิใช่ นักการศึกษาเนื่องจากมิได้เข้าศึกษาในหลักสูตรเกี่ยวกับการศึกษาและไม่เคยเรียนรู้วิชาครูจากการเข้าชั้นเรียนแม้แต่ชั่วโมงเดียวการหาความรู้ทางการศึกษาทำโดย ศึกษาด้วยตนเอง สังเกตวิธีการสอนของปรมาจารย์ผู้มากประสบการณ์แบบที่ชาวบ้านเรียกว่า "ครูพักรักจำ" แล้วนำสิ่งดังกล่าวมา" "ปรับ-ปรุง-เปลี่ยน-แปลง แก้ไข" ให้ได้วิธีการที่น่าจะดีพอในระดับหนึ่งในการถ่ายทอดความรู้ไปสู่นิสิต นักศึกษา ตลอดจนภาคประชาชน


โดยความเห็นส่วนตัวนั้นหน้าที่ของ "ครู" หรือ ผู้สอน ผู้บรรยาย องค์ปาฐก แล้วแต่จะเรียกขานคือ "Simplify a complicated thing" มิใช่ "Complicated a simple thing" และได้นำแนวคิดดังกล่าวแล้วมาปฎิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเรียนการสอนซึ่งเน้นประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นหลัก (Outcome) โดยเริ่มจากการ วางกรอบขององค์ความรู้ในภาพรวมเพื่อให้ผู้เรียนได้ทราบสถานภาพโดยรวมของวิชาที่ตนเองกำลังศึกษาอยู่แล้วจึงระบุความรู้เฉพาะที่ต้องการศึกษา อันจะนำมาซึ่งความ เชื่อมโยงของตัวศาสตร์เองกับศาสตร์อื่นๆโดยมุ่งเน้นถึง:รู้-เข้าใจ-ใช้เป็น-เห็นปัญหา-ค้นคว้าได้-ทำนายถูก-ปลูกผลเอง-เคร่งคุณธรรม


ในการเรียนรู้นั้นสิ่งที่นิสิตต้องได้คือมโนทัศน์ และ Mechanical procedures ซึ่งมุ่งเน้นทั้งทางด้าน mathematical meaning และ physical meaning ควบคู่กันไปจะแยกออกจากกันมิได้เฉกเช่นร่างกายและจิตใจไม่สามารถแยกออกจากกันฉันใดก็ฉันนั้น แม้การศึกษาจะไม่มีสูตรสำเร็จ(panacea)แต่พอประมวลได้ว่าคนเราแม้จะศึกษาสาขาวิชาใดๆในฐานะที่เป็นมนุษย์ควรมีสิ่งต่อไปนี้ร่วมกัน คือ

1.สามัญสำนึกผนวกกับ legal mind "จะทำให้ รู้-ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี"

2.ตรรกะ-ภาษา-ธรรมมะ ทำให้คิดอย่างเป็นระบบ มีเหตุมีผล สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ

3.ศรัทธา-ปัญญา-วิริยะ-สมาธิ-สติ ซึ่งได้แก่ "พละ 5" อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จที่พึงประสงค์ มนุษย์ผู้เป็น "ศึกษิต" จะต้องกล้าทำ-กล้ารับ-กกล้าเผชิญ ต่อสิ่งที่ ตัวเองกระทำซึ่งเป็นเกียรติยศของคน

นอกจากนี้ยังต้องถึงพร้อมในแง่ รู้เหตุ-รู้ผล-รู้ตน-รู้ประมาณ-รู้กาลเวลา-รู้บุคคล และรู้ชุมชน โดยสามารถรักษา ภูมิฐาน-ภูมิรู้-ภูมิธรรม แห่งตนให้ดำรงอยู่ ตลอดไปอย่างประพฤติตนเป็น "Devil Advocate" คิดในแง่บวก อย่าคิดในแง่ลบยึดหลักในการคิดเรื่องใด ๆ ก็ตามง่าย ๆ ดังนี้

Think globally,

Speak regionally,

Do locally.


จากที่เกริ่นมาทั้งหมดนั้นจะพบว่าพื้นฐานหรือรากฐานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จะต้องวางรากฐานที่มั่นคง ถ้าต้องการสร้างคนให้มีความ พร้อมในทุกด้านเพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้นต้องเริ่มต้นที่ระบบการศึกษาที่เหมาะสมมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง (สามารถนำไปใช้งานได้จริง ไม่ใช่แค่แสดงโวหารหรือเพียงการอภิปรายเท่านั้น)


การศึกษาให้ได้มาซึ่งการเป็น "ศึกษิต" นั้นกล่าวอย่างง่ายคือ "Education is STARS"

S - student

T - teaching

A - administration

R - resources

S - social


ดังนั้นการจัดการศึกษาของชาติจึงต้องคำนึงถึงองค์ประกอบใน "STARS" ให้ครบถ้วนวางแผนการดำเนินงานเตรียมความพร้อม หลักสูตรที่ทันสมัย อุปกรณืการเรียน การสอน วิธีการสอน สื่อการสอน ภาพสังคม ตลอดจนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการกำหนดเป้าหมายของการศึกษาให้ได้มาซึ่งความเป็น "ศึกษิต" คิดเป็น วิเคราะห์เป็น สังเคราะห์เป็น สร้างองค์ความรู้ได้ เข้าถึงกระบวนการสร้างคนผ่านการศึกษาโดยเน้น "กระบวนการทางวิทยาศาสตร์" ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลักคือ

1.Problem solving

2.Reasoning and Proof

3.Communication (Conclusion)

4.Connection

5.Re-presentation


ในการปฏิรูปการศึกษาจำต้องทำให้ "ศึกษิต" มี

(I) Social responsibility

(II) Employability in Workplace

(III) Lifelong learning


ท้ายที่สุดนี้ผู้เขียนหวังว่าข้อเขียนนี้คงมิใช่เสียงนกเสียงกา แต่จะเป็นเสียงดังกึกก้องกำปนาทของมหาสมุทรเมื่อกระทบโสตประสาทของผู้มีอำนาจและความรับผิด ชอบต่อวงการศึกษาไทยจักได้ดำเนินการปฏิรูปการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้เกิด "ศึกษิต" ให้จงได้ แต่มิใช่อุ้งมือของคนหน้าเดิมไม่กี่คนที่คุมชะตา การศึกษาของชาติที่ล้มลุกคุกคานมาไม่ทราบกี่ระลอกแล้ว ยังหลงตัวเองโดยขอโอกาศปฏิรูปการศึกษาภายใต้วังวลที่ไม่เคยประสบผลสำเร็จเลย ยิ่งปฏิรูปดารศึกษา มากเท่าใดก็จะพบความล้มเหลวแห่งวงการศึกษามากเท่านั้น

อนิจจาวงการศึกษาไทย ฤาจะถึงคราวต้องล้มสลายชั่ยกัลปาวสาน.


Kalos kagathos

Von Enos Cornelius

Dozent La Sapienza

χουχαατ θαμμαχαροεν

19/3/2011

เครื่องมือส่วนตัว