ลิริโอเดนีน(Liriodenine)
จาก ChulaPedia
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''การประเมินคุณภาพพืชสมุนไพรบางชนิดที่มีสารลิริ…')
แตกต่างถัดไป →
การปรับปรุง เมื่อ 05:20, 21 ธันวาคม 2555
การประเมินคุณภาพพืชสมุนไพรบางชนิดที่มีสารลิริโอเดนีนในประเทศไทย QUALITY ASSESSMENT OF SELECTED LIRIODENINE BEARING PLANTS ENDEMIC TO THAILAND เขียนโดย ดร.ศรัญธินี มงคลรัตน์ / อ. ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก: อ.ดร. ชนิดา พลานุเวช, อ. ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม: รศ.ดร. นิจศิริ เรืองรังษี
ลิริโอเดนีนจัดเป็นสารอัลคาลอยด์ไอโซควิโนลีน ที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพที่หลากหลาย ได้แก่ การต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด มีฤทธิ์ต้านเชื้อราและจุลชีพ นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาพบศักยภาพในการออกฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็งหลายประเภท งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำข้อกาหนดทางเภสัชเวท และวิเคราะห์หาปริมาณสารลิริโอเดนีน ในเปลือกต้นจำปี จำปา และ ใบบัวหลวง โดยเทคนิคทางทินเลเยอร์โครมาโทกราฟีเปรียบเทียบกับวิธีโครมาโทกราฟีของเหลวสมรรถนะสูง โดยเก็บตัวอย่างพืชสมุนไพร 28 ชนิดที่อยู่ในวงศ์แมกโนเลีย วงศ์กระดังงา และวงศ์บัวปทุมชาติ จากแหล่งธรรมชาติในประเทศไทย เตรียมสารสกัดโดยวิธีสกัดต่อเนื่องแบบซ็อกเล็ตด้วยเอทานอล 95 % วิเคราะห์หาปริมาณลิริโอเดนีน โดยเทคนิควิเคราะห์ทั้งสองซึ่งทดสอบความถูกต้องของการวิเคราะห์ โดยแสดงค่าความเป็นเส้นตรง ความถูกต้อง ความเที่ยงตรง และ ความไวของการทดสอบ ตามข้อกาหนดแนวทาง ICH
จากการศึกษาพบ เปลือกต้นจำปี จำปา และใบบัวหลวง มีปริมาณสารลิริโอเดนีนสูงสุดในสามอันดับแรก อีกทั้งเป็นพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นเครื่องยาในการแพทย์แผนไทย โดยเก็บตัวอย่างจาก 15 แหล่งทั่วประเทศไทย เพื่อกำหนดมาตรฐานทางเภสัชเวชและประเมินคุณภาพ การศึกษาเอกลักษณ์ทางเภสัชเวทของเปลือกต้นจำปี พบว่ามีปริมาณเถ้าที่ไม่ละลายในกรด เถ้ารวม น้าหนักที่หายไปเมื่อทำแห้งและ ปริมาณน้ำ้ ไม่ควรเกินร้อยละ 3.49, 5.74, 7.17 และ 6.67 ของน้ำหนักแห้ง ตามลำดับ ปริมาณสารสกัดด้วยเอทานอลและน้ำ ไม่ควรน้อยกว่าร้อยละ 3.85 และ 8.25 ของน้ำหนักแห้ง ตามลำดับ สำหรับเปลือกต้นจำปา พบว่ามีปริมาณเถ้าที่ไม่ละลายในกรด เถ้ารวม น้ำหนักที่หายไปเมื่อทำแห้ง และ ปริมาณน้ำ ไม่ควรเกินร้อยละ 2.98, 6.25, 5.62 และ 7.37 ของน้ำหนักแห้ง ตามลำดับ ปริมาณสารสกัดด้วยเอทานอลและน้ำ ไม่ควรน้อยกว่าร้อยละ 6.71 และ 12.38 ของน้ำหนักแห้ง ตามลำดับ การศึกษาใบบัวหลวง พบว่ามีปริมาณเถ้าที่ไม่ละลายในกรด เถ้ารวม น้ำหนักที่หายไปเมื่อทำแห้ง และ ปริมาณน้ำ ไม่ควรเกินร้อยละ 2.61, 9.62, 7.69 และ 7.06 ของน้ำหนักแห้ง ตามลาดับ ปริมาณสารสกัดด้วยเอทานอลและน้ำ ไม่ควรน้อยกว่าร้อยละ 6.24 และ 9.51 ของน้ำหนักแห้ง ตามลำดับ
โดยสรุป ผลการทดสอบค่าความเป็นเส้นตรง ความถูกต้อง ความเที่ยงตรง และ ความไวของวิธีวิเคราะห์ ได้กราฟมาตรฐาน ในช่วงความเป็นเส้นตรงของความเข้มข้นระหว่าง 5 - 200 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ที่ดีคือ มากกว่า 0.995 จากผลการยืนยันความถูกต้องของการวิเคราะห์สารจากทั้งสองวิธีที่พัฒนาขึ้นมานี้ พบว่ามีความถูกต้อง แม่นยำ และความไวอยู่ในเกณฑ์ดี ภาพที่ได้จากแผ่นทินเลเยอร์โครมาโทกราฟี แสดงการเรืองแสงของสารลิริโอเดนีนอย่างชัดเจน ภายใต้การดูดกลืนแสงอัลตราไวโอเลตที่ความยาวคลื่น 365 นาโนเมตร ได้ค่า Rf ที่ 0.75 ในขณะที่โครมาโทแกรมจากวิธีโครมาโทกราฟีของเหลวสมรรถนะสูง แสดงพีคของสารลิริโอเดนีน ที่เวลาประมาณ 11 นาที
จากผลการศึกษา แสดงให้เห็นว่าทั้งสองวิธีนี้ สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์เชิงปริมาณของสารลิริโอเดนีนในพืชสมุนไพรได้เป็นอย่างดี โดยไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบผลการทดลองระหว่างสองวิธี (p>0.05) ยิ่งไปกว่านั้น การวิเคราะห์เชิงปริมาณด้วยภาพจากทินเลเยอร์โครมาโทกราฟี สามารถนามาประยุกต์ใช้ได้ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ไม่ยุ่งยาก สะดวก รวดเร็ว และ มีราคาไม่แพง อีกทั้งการเรืองแสงของสารลิริโอเดนีน ยังช่วยให้การวิเคราะห์ด้วยวิธีนี้ง่ายขึ้น สะดวก และเหมาะสมแก่การนำมาใช้ในการพัฒนาต่อไป