การประเมินผลแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ.2550 - 2554) ระยะกลางแผน
จาก ChulaPedia
เนื้อหา |
การประเมินผลแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ.2550 - 2554) ระยะกลางแผน
การประเมินผลแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ.2550 - 2554) ระยะกลางแผน*
ดร.ถนอมวงศ์ กฤษณ์เพ็ชร์** ดร.รัชนี ขวัญบุญจัน***
บทคัดย่อ
การประเมินผลแผนพัฒนาการนันทนาการแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2550-2554) มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลแผนพัฒนาการนันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ.2550-2554) ระยะกลางแผนและเพื่อศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการดำเนินงานด้านนันทนาการกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดตามแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ.2550-2554) ระยะครึ่งแผน
วิธีดำเนินการประเมินโดยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเอกสารและเก็บข้อมูลภาคสนามจากการนิเทศแผนฯ ทั้ง 4 ภาค และจากการใช้แบบสอบถามกับประชาชน ผู้บริหารและนักเรียนนักศึกษา
และบุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และในเขตกรุงเทพมหานคร ผลการประเมินพบว่า จากวัตถุประสงค์ของแผน ฯ มีเป้าหมาย 6 ข้อใหญ่และ 7 ข้อย่อย รวม 13 ข้อ
ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย 9 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 69.23 จาก 3 ยุทธศาสตร์ 9 ผลผลิต และมีตัวชี้วัด 16 ข้อ เป็นไปตามตัวชี้วัด 8 ข้อ คิดเป็นร้อยละ 50 โดยภาพรวมผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2550-2554) ระยะกลางแผนได้ตามเป้าหมายและตัวชี้วัดคิดเป็นร้อยละ 58.62
ความสำคัญของปัญหา
สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการมีภารกิจหลักในการส่งเสริมกีฬาและนันทนาการให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนในชาติให้มีสุขภาพดีทั้งทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา เพื่อเป็นรากฐานที่สำคัญยิ่งในการเสริมสร้างให้สังคมแข็งแรง ตั้งแต่ครอบครัวและชุมชน โดยมีแผนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2550-2554) เป็นแม่บทในการพัฒนากีฬาของชาติ และมีแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ.2550-2554) ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2550 ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีด่วนที่สุดที่ นร 0506/24648 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2550 (สำนักส่งเสริมและพัฒนานันทนาการ, 2551) เพื่อเป็นแม่บทกำหนดกรอบ การพัฒนาด้านนันทนาการของชาติโดยเฉพาะ รวมทั้งการจัดทำคู่มือการแปลงแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2550-2554) สู่การปฏิบัติ (สำนักส่งเสริมและพัฒนานันทนาการ, 2551) ซึ่งแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 ได้ดำเนินการมาระยะครึ่งแผน พ.ศ. 2550-2552 แล้วประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วและมากมาย ทำให้การดำเนินงานตามเป้าหมายในการพัฒนานันทนาการได้รับผลกระทบและจำเป็นต้องปรับปรุงให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพื่อนำผลการประเมินแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติ ระยะกลางแผนเป็นข้อมูลสารสนเทศที่สำคัญในการเป็นแนวทางในการนำแผนไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนานันทนาการของชาติอย่างทิศทางที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลประโยชน์ทั้งหมดแก่ประชาชนและประเทศชาติอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในอนาคต
วัตถุประสงค์ของการประเมิน
1. เพื่อติดตามประเมินผลแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ.2550-2554) ระยะกลางแผน
2. เพื่อศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการดำเนินงานด้านนันทนาการกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดตามแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2550-2554) ระยะกลางแผน
ประโยชน์ที่ได้รับจากการประเมิน
1. ได้ทราบผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินงานตามแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2550-2554) ระยะกลางแผน พ.ศ. 2550-2552
2. ได้ข้อมูลสารสนเทศสำหรับการนำไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงหรือพัฒนาแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2550-2554) 3. ผลการประเมินแผนฯ ครั้งนี้จะเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ต่อเนื่องและสอดคล้องกับสถานกาณ์ของประเทศปัจจุบัน ทั้งในเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติการแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับนันทนาการของชาติ
วิธีดำเนินการประเมิน
1. วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเอกสารของหน่วยงานหลัก เช่น รายงานประจำปี รายงานผลการวิจัย และเว็บไซด์ของราชการ เป็นต้น 2. เก็บข้อมูลภาคสนามโดยการจัดอบรมนิเทศแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2550-2554) 4 ภาค ได้แก่
ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคกลาง จังหวัดชลบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น ภาคใต้ จังหวัดสงขลา
3. เก็บข้อมูลภาคสนามโดยใช้แบบสอบถาม ส่งไปยังผู้ประสานงานสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดทั้ง 21 จังหวัด เก็บรวบรวมแบบสอบถามจากเด็ก เยาวชน ประชาชน ผู้บริหารสถานศึกษา นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและส่วนท้องถิ่น ส่วนกรุงเทพมหานครขอให้ผู้ประสานงานจากกองนันทนาการ สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานครเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งจำนวนข้อมูลทั้งหมดที่นำมาวิเคราะห์ทางสถิติได้จากเด็ก เยาวชน และประชาชน 2,834 คน อบจ. อบต. เทศบาล สำนักงานเขต 821 คน และผู้บริหารสถานศึกษา 814 คน
3.1 การสำรวจการใช้เวลาว่างและการประกอบกิจกรรมนันทนาการของประชาชน 3.2 การศึกษาสภาพการจัดและดำเนินงานกิจกรรมนันทนาการในสถานศึกษา 3.3 การศึกษาสภาพการจัดและดำเนินงานกิจกรรมนันทนาการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และในเขตกรุงเทพมหานคร
ขอบเขตของการประเมินผล
การประเมินผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2550-2554) ระยะกลางแผน มีขอบเขตดังนี้
1. ประเมินผลการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2550-2554) ระยะกลางแผน รวม 3 ประเด็นยุทธศาสตร์ เฉพาะผลผลิตและตัวชี้วัด 2. ศึกษาสภาพการจัดและดำเนินงานกิจกรรมนันทนาการในสถานศึกษาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3. ศึกษาสภาพการจัดและดำเนินงานกิจกรรมนันทนาการในสถานศึกษา สำนักงานเขตและศูนย์เยาวชนในเขตกรุงเทพมหานคร 4. สำรวจการใช้เวลาว่างและการประกอบกิจกรรมนันทนาการของประชาชน 5. หน่วยงานหลักที่เก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ - กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา - กระทรวงศึกษาธิการ - กระทรวงมหาดไทย - กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ - กระทรวงวัฒนธรรม - กระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร - สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ - สำนักกองทุนสนันสนุนวิจัย - องค์ปกครองส่วนท้องถิ่น - กรุงเทพมหานคร
ขั้นตอนของการประเมิน
1. กำหนดองค์ประกอบและตัวชี้วัดในการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2550-2554) 2. จัดทำรูปแบบการประเมินและแบบสอบถาม โดยผ่านผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบคุณภาพแล้ว 3. ดำเนินการเก็บข้อมูลทั้งข้อมูลเชิงเอกสารและข้อมูลภาคสนาม 4. ประมวลผลข้อมูล 5. จัดทำรายงานผลการประเมินแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2550-2554
สรุปผลการประเมิน
ผลการประเมินแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2550-2554)ระยะกลางแผน
1. สรุปผลการประเมินตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของแผน ฯ
1.1 วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 เพื่อเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เวลาที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์และนันทนาการสู่ประชาชนทุกกลุ่ม โดยขอความร่วมมือจากสื่อทุกแขนง ก่อให้เกิดการตื่นตัวในการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการ เป้าหมาย ประชาชนทุกเพศทุกวัย รวมทั้งกลุ่มบุคคลพิเศษและผู้ด้อยโอกาส มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการใช้เวลาว่างที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ และประกอบกิจกรรมนันทนาการเป็นประจำจนเป็นวิถีชีวิต โดยมีเป้าหมายร้อยละ 60 ในปี พ.ศ. 2554 ผลการดำเนินงาน
1. ประชาชนทุกเพศทุกวัยมีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการใช้เวลาว่าง (ร้อยละ 42.8) เป็นภาคกลาง(ร้อยละ 45.4) และกรุงเทพมหานคร (ร้อยละ 44.6) 2. ประชาชนทุกเพศทุกวัยใช้เวลาว่าง ดูละครในโทรทัศน์ ร้อยละ 68.8 ออกกำลังกาย/เล่นกีฬา (ร้อยละ 62.4) และพักผ่อน(ร้อยละ 50.9) 3. ประชาชนประกอบกิจกรรมนันทนาการเป็นประจำ ได้แก่ ดูละครในโทรทัศน์ (ร้อยละ 40.2) เล่นเกมและกีฬา (ร้อยละ 25.2) และงานอดิเรก (ร้อยละ 22.3)
สรุปผลการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมาย
1.2 วัตถุประสงค์ข้อทิ่ 2 เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มประกอบกิจกรรมนันทนาการเป็นประจำจนเป็นวิถีชีวิต เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตรวมทั้งส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณีอย่างต่อเนื่อง เป้าหมาย - เด็ก และเยาวชน ร้อยละ 80 มีความรู้ ความเข้าใจ และมีเจตคติที่ดีต่อนันทนาการรวมทั้งการศึกษาการใช้เวลาว่างและการประกอบกิจกรรมนันทนาการเป็นประจำ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต - สถานศึกษาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร้อยละ 60 จัดให้มีการศึกษาการใช้เวลาว่างและนันทนาการ รวมทั้งจัดให้มีกิจกรรมนันทนาการในชีวิตประจำวันแก่นักเรียน เยาวชน และประชาชนในชุมชน - ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประเพณีอย่างต่อเนื่อง ผลการดำเนินงาน
1. เด็ก มีความรู้ความเข้าใจและเห็นคุณค่าการใช้เวลาว่าง (ร้อยละ 46.4) 2. เยาวชน มีความรู้ ความเข้าใจและเห็นคุณค่าการใช้เวลาว่าง (ร้อยละ 45.4) 3. เด็กใช้เวลาว่างดูละครทีวี (ร้อยละ 75.5) ออกกำลังกาย/เล่นกีฬา (ร้อยละ 65.0)และการประกอบกิจกรรมนันทนาการเป็นประจำ ได้แก่ ดูละครในโทรทัศน์ (ร้อยละ 44.1) และเล่นเกมและกีฬา (ร้อยละ 31.0) 4. เยาวชนใช้เวลาว่างดูละครในโทรทัศน์(ร้อยละ 65.7) และออกกำลังกาย/เล่นกีฬา (ร้อยละ 64.3) และประกอบกิจกรรมนันทนาการเป็นประจำ ได้แก่ ดูละครในโทรทัศน์ (ร้อยละ 42.7) และดนตรี/ร้องเพลง (ร้อยละ 29.5) 5. สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนนันทนาการ (ร้อยละ 99.4) และมีชมรมกีฬา/การออกกำลังกายชนิดต่างๆ (ร้อยละ 98.3) ชมรมดนตรีและชมรมทางศาสนา (ร้อยละ 96.4) เท่ากัน 6. สถานศึกษามีวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมเพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจและเห็นคุณค่าในการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ (ร้อยละ 72.1) 7. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดการเผยแพร่ความรู้กิจกรรมนันทนาการทางหอกระจายเสียง (ร้อยละ 97.7) และมีการจัดกิจกรรมนันทนาการสำหรับเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ (ร้อยละ 98.5, 99.5, 99.3 และ 99.0) ตามลำดับ 8. กรุงเทพมหานคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดนันทนาการกลุ่มศิลปะพื้นเมือง/วัฒนธรรมท้องถิ่นมาก (ร้อยละ 87.5 และร้อยละ 98.3) และกลุ่มกิจกรรมพิเศษตามเทศกาล (ร้อยละ 100 และร้อยละ 99.7)กลุ่มกิจกรรมทางศาสนา (ร้อยละ 98.5 และ ร้อยละ 100)
สรุปผลการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมาย
1.3 วัตถุประสงค์ข้อที่ 3 เพื่อพัฒนาบุคลากรในการบริการนันทนาการทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชนให้มีความรู้ความสามารถสู่ระดับมาตรฐานสากล
เป้าหมาย ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาบุคลากรในการบริการนันทนาการให้มีศักยภาพและขีดความสามารถเพิ่มขึ้น และมีการจ้างงานบุคลากรนันนาการอาชีพมากยิ่งขึ้น
ผลการดำเนินงาน
1. ปี พ.ศ. 2549 เดือนมกราคม อัตราการว่างงาน 2.2
ปี พ.ศ. 2550 เดือนมกราคม อัตราการว่างงาน 1.6 ปี พ.ศ. 2551 เดือนมกราคม อัตราการว่างงาน 1.7 ปี พ.ศ. 2552 เดือนมกราคม อัตราการว่างงาน 2.4 จำนวนผู้ว่างงานตามประสบการณ์การทำงาน ไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2551 เคยทำงานมาก่อน 4.5 แสนคน 2.1 แสนคน เป็นภาคบริการ 1.1 แสนคน เป็นภาคการผลิต 1.3 แสนคน เป็นภาคเกษตรกรรม ไตรมาสที่ 4 พ.ศ.2551 เคยทำงานมาก่อน 3.4 แสนคน 1.3 แสนคน เป็นภาคบริการ 1.3 แสนคน เป็นภาคการผลิต 0.8 แสนคน เป็นภาคเกษตรกรรม ภาวะเศษฐกิจตกต่ำทั่วโลกและเกิดระบาดไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009
2. สถานบันพัฒนาบุคลากร สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ ดำเนินการจัดจ้างผู้นำทางการกีฬาและนันทนาการที่มีความรู้ ความสามารถในการดำเนินการส่งเสริมกีฬาและนันทนาการให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เป็นเจ้าหน้าที่กีฬาและนันทนาการอำเภอละ 1 คน และประจำสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด (75 จังหวัด) รวม 925 คน บุคลากรด้านกีฬาและนันทนาการได้รับการพัฒนา ปี พ.ศ. 2550 จำนวน 13, 035 และปี พ.ศ. 2551 จำนวน 9,571 คน
สรุปผลการดำเนินงาน ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
1.4 วัตถุประสงค์ข้อที่ 4 เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ปรับปรุง และรับรองมาตรฐาน อุปกรณ์ สถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก และสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับนันทนาการ เป้าหมาย มีการสร้างตรวจสอบ ปรับปรุงดูแล และพัฒนาสิ่งแวดล้อม อุปกรณ์ สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับนันทนาการให้มีความสะดวก ปลอดภัย เป็นไปตามมาตรฐานสากล
ผลการดำเนินงาน 1. มีการจัดการความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยในการจัดกิจกรรมนันทนาการในสถานศึกษา
1.1 มีการจัดหาอุปกรณ์นันทนาการที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน(ร้อยละ 72.9) 1.2 มีสนามเด็กเล่นและเครื่องเล่นที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน (ร้อยละ 63.9) 1.3 มีการตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์นันทนาการอย่างสม่ำเสมอ(ร้อยละ 58.2) 1.4 มีกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน (ร้อยละ 50.1)
2. มีการจัดการความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยในการจัดกิจกรรมนันทนาการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
2.1 มีการจัดหาอุปกรณ์นันทนาการที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน(ร้อยละ 73.3) 2.2 มีสนามเด็กเล่นและเครื่องเล่นที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน (ร้อยละ 64.1) 2.3 มีการตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์นันทนาการอย่างสม่ำเสมอ(ร้อยละ 55.7) 2.4 มีกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน (ร้อยละ 47.3) สรุปผลการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมาย
1.5 วัตถุประสงค์ข้อที่ 5 เพื่อพัฒนาการบริหารจัดการนันทนาการให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป้าหมาย มีการบริหารจัดการนันทนาการอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
1. มีองค์กรหลักทำหน้าที่รับผิดชอบ กำกับดูแล และประสานงานการดำเนินงานนันทนาการของประเทศ 2. มีโครงสร้างการบริหารงานนันทนาการชัดเจนและมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น สถานศึกษา องค์กรวิชาชีพ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีส่วนร่วมในการพัฒนานันทนาการและสนับสนุนนันทนาการเชิงพาณิชย์ 3. มีศูนย์นันทนาการดำเนินอย่างมีประสิทธิภาพในทุกชุมชนและมีองค์กรเครือข่ายเชื่อมโยงประสานงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4. มีศูนย์ข้อมูลเผยแพร่ด้านนันทนาการ มีระบบสารสนเทศและการประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ 5. มีกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับที่เหมาะสมเอื้อต่อการดำเนินการด้านนันทนาการ 6. มีผลการศึกษา วิจัย ค้นหา และพัฒนานวัตกรรมด้านันทนาการทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ 7. มีการประเมินผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2550-2554) อย่างเป็นระบบ ผลการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมาย 1. มีองค์กรหลักทำหน้าที่ที่รับผิดชอบ (สำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ) 2. มีโครงสร้างการบริหารนันทนาการชัดเจน 3. มีศูนย์นันทนาการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพในทุกชุมชน(ศูนย์นันทนาการตำบล/เทศบาลและจังหวัด) 4. มีการประเมินผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนานันทนาการแห่งชาติฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2550-2554) อย่างเป็นระบบ ผลการดำเนินงาน ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 1. มีศูนย์ข้อมูลเผยแพร่ด้านนันทนาการ มีระบบสารสนเทศแต่ยังขาดระบบบริหารจัดการเชื่อมโยงเครือข่ายทั่วประเทศ 2. ยังไม่มีกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับที่เหมาะสม 3. มีผลงานการศึกษา วิจัย ค้นหา ในระดับประเทศแต่ยังขาดการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านนันทนาการทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ
2. สรุปผลการประเมินตามยุทธศาสตร์ ผลผลิตและตัวชี้วัดของแผน ฯ
2.1 ยุทธศาสตร์ที่ 1 การส่งเสริมเด็ก เยาวชน และประชาชนให้มีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการใช้เวลาที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์และประกอบกิจกรรมนันทนาการเป็นประจำจนเป็นวิถีชีวิต ก่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีต่อตนเองและสังคม มีผลผลิต 5 ข้อ และมีตัวชี้วัด 5 ข้อ ผลการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมาย 5 ข้อ ผลการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมาย ได้แก่ 1. เด็ก เยาวชนและประชาชนทุกกลุ่ม มีความรู้ ความเข้าใจและเห็นคุณค่าการใช้เวลาว่าง(ร้อยละ 42.8) เป็นเด็ก (ร้อยละ 46.4) และเยาวชน (ร้อยละ 45.4) 2. สถานศึกษาทุกระดับและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร้อยละ 30 มีการเรียนรู้และจัดกิจกรรมนันทนาการ 3. ครู ผู้นำ และอาสาสมัครนันทนาการได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น 4. สถานศึกษาและชุมชนร้อยละ 30 จัดหาแหล่งนันทนาการ 5. มีศูนย์นันทนาการชุมชน ตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงระดับประเทศที่ให้บริการประชาชนและจัดกิจกรรมนันทนาการ
2.2 ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาบุคลากรในการจัดบริการนันทนาการ มีผลผลิต 3 ข้อ และมีตัวชี้วัด 6 ข้อ ผลการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมาย 2 ข้อ และยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 4 ข้อ ผลการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมาย ได้แก่ 1. ศิลปวัฒนธรรมประเพณีได้รับการอนุรักษ์และส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง 2. อุปกรณ์ สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับนันทนาการได้รับการปรับปรุงพัฒนาและตรวจสอบคุณภาพ ผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ได้แก่ 1. มีบุคลากรในการจัดบริการนันทนาการได้รับการอบรมระดับพื้นฐานแต่ยังไม่พบการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถสู่ระดับมาตรฐานสากล 2. ยังไม่มีบุคลากรนันทนาการอาชีพได้รับใบประกอบวิชาชีพ 3. ยังไม่มีการจัดตั้งองค์กรรับรองมาตรฐานวิชาชีพนันทนาการ 4. ยังขาดมาตรการเกี่ยวกับทรัพยากรนันทนาการ (Recreation Resource) ที่จะได้รับการดูแลและอนุรักษ์ตลอดเวลา
2.3 ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาการบริหารจัดการนันทนาการ มีผลผลิต 1 ข้อ และมีตัวชี้วัด 5 ข้อ ผลการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมาย 1 ข้อ และยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 4 ข้อ ผลการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมาย ได้แก่ 1. ศูนย์นันทนาการในสถานศึกษาและชุมชนร้อยละ 50 ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลการดำเนินงาน ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ได้แก่ 1. ยังไม่มีสถานประกอบการนันทนาการเชิงพาณิชย์มีผลผลิตขององค์กรธุรกิจนันทนาการเพิ่มมากขึ้น 2. มีศูนย์ข้อมูลเผยแพร่กิจการนันทนาการทั้งในระดับอำเภอและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แต่ยังไม่มีระบบสารสนเทศและการประชาสัมพันธ์เชื่อมโยงเครือข่ายทั่วประเทศ 3. ยังไม่มีการปรับปรุงกฎหมาย ข้อบังคับให้เหมาะสมต่อการดำเนินการด้านนันทนาการ 4. มีผลการศึกษา วิจัย ค้นหา และพัฒนานวัตกรรมด้านนันทนาการในระดับประเทศแต่ยังขาดการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านนันทนาการทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ