พลาสติกชีวภาพจากพอลิแลกทิกแอซิด พอลิบิวทิลีนซักซิเนต และไมโครคริสตัลลีนเซลลูโลส

จาก ChulaPedia

การปรับปรุง เมื่อ 04:55, 4 มิถุนายน 2557 โดย 51739112 (พูดคุย | เรื่องที่เขียน)
(ต่าง) ←รุ่นก่อนหน้า | รุ่นปัจจุบัน (ต่าง) | รุ่นถัดไป→ (ต่าง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
       พลาสติกชีวภาพจากพอลิแลกทิกแอซิด พอลิบิวทิลีนซักซิเนต และไมโครคริสตัลลีนเซลลูโลส สามารถเตรียมได้โดยการผสมแบบหลอมเหลวในเครื่องอัดรีดแบบเกลียวคู่ตามด้วยการอัดแบบเพื่อปรับปรุงสมบัติเชิงกลและสมบัติทางความร้อนของพอลิแลกทิกแอซิด สมบัติเชิงกลด้านความทนแรงกระแทกและความทนแรงดึง สัณฐานวิทยา พฤติกรรมทางความร้อนซึ่งรวมถึงพฤติกรรมการเกิดผลึกและเสถียรภาพทางความร้อน โครงสร้างผลึก โครงสร้างทางเคมี และการย่อยสลายทางชีวภาพถูกตรวจสอบด้วยเครื่องทดสอบความทนแรงกระแทก เครื่องทดสอบยูนิเวอร์แซล กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด เทคนิคดิฟเฟอเรนเชียลสแกนนิงคาลอริเมทรี การวิเคราะห์น้ำหนักภายใต้ความร้อน (ทีจีเอ) เครื่องเอ็กซเรย์ดิฟแฟรกโทมิเตอร์ เทคนิค ฟูเรียร์แทรนสฟอร์ม สเปกโทรสโกปี และทดสอบด้วยการฝังดิน จากผลการทดสอบ พบว่า พอลิเมอร์ผสมพอลิแลกทิกแอซิด/พอลิบิวทิลีนซักซิเนตที่อัตราส่วน 70/30 มีการยืดตัว ณ จุดขาดสูงที่สุด (243.9%) เมื่อเปรียบเทียบกับของพอลิแลกทิกแอซิด (2.8%) ซึ่งแสดงให้เห็นชัดว่า พอลิบิวทิลีนซักซิเนตมีผลอย่างมากในการเพิ่มการยืดตัว ณ จุดขาด และความทนแรงกระแทกของพอลิแลกทิกแอซิด แต่สูญเสียความทนแรงดึง ความแข็งตึง และเสถียรภาพทางความร้อน นอกจากนี้ กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราดแสดงความเข้ากันได้ดีกว่าของพอลิผสมที่อัตราส่วนผสมนี้ ดังนั้น จึงนำพอลิเมอร์ผสมที่มีอัตราส่วน 70/30 มาเติมไมโครคริสตัลลีนเซลลูโลสทั้งที่ใส่และไม่ใส่สารต่อสายโซ่ทางการค้า (จองคริล) ซึ่งไมโครคริสตัลลีนเซลลูโลสที่ใช้ในงานวิจัยนี้ถูกสกัดจากเศษฝ้าฝ้ายด้วยการไฮโดรไลซ์ด้วยกรด โดยใช้ไมโครคริสตัลลีนเซลลูโลสที่เตรียมได้ 5, 10 และ 15 ส่วน/พอลิเมอร์ผสมร้อยส่วน และจองคริล 0.5 และ 1 ส่วน/พอลิเมอร์ผสมร้อยส่วน ซึ่งข้อมูลของทีจีเอแสดงว่าการใส่ไมโครคริสตัลลีนเซลลูโลสและจองคริลมีผลทำให้เสถียรภาพทางความร้อนของคอมพอสิตมีค่าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ คอมพอสิตที่อัตราส่วน 70/30/5 และจองคริล 1 ส่วนมีความทนแรงกระแทกสูงที่สุด (14.8 กิโลจูล/เมตร2) ขณะที่การยืดตัว ณ จุดขาด (77.2%) มีค่ายอมรับได้
เครื่องมือส่วนตัว