การสื่อสารความเกลียดชังบนเว็บไซต์ยูทูบ
จาก ChulaPedia
เว็บไซต์ยูทูบ (www.youtube.com) เว็บไซต์วิดีโอแชร์ริ่งยอดนิยม ที่สะท้อนให้เห็นภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนแปลงไปที่คนธรรมดาซึ่งเป็นผู้ใช้สื่อสามารถเป็นผู้ผลิตสื่อได้ (user-generated content) จะเห็นได้จากกระแสต่างๆในสังคมทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศที่มีคนบันทึกคลิปวิดีโอและอัปโหลดขึ้นบนเว็บไซต์ยูทูบ มีการแบ่งปันต่อไปยังสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ เมื่อเป็นที่สนใจในวงกว้าง สื่อมวลชนกระแสหลัก เช่น โทรทัศน์ วิทยุ นำเนื้อหาในคลิปวิดีโอมานำเสนอต่อ ทำให้เป็นบุคคลหรือเรื่องราวในคลิปวิดีโอนั้นๆที่รู้จักในวงกว้าง
เนื้อหาในเว็บไซต์ยูทูบซึ่งถูกผลิตขึ้นจากผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ด้วยกันเองนั้นมีทั้งด้านที่สร้างสรรค์และด้านที่สร้างผลกระทบด้านลบ ซึ่งคุณลักษณะของเว็บไซต์ยูทูบในฐานะสื่อสังคมออนไลน์ก็มีส่วนในการช่วยแพร่กระจายการสื่อสารความเกลียดชัง จากการวิจัยเรื่อง “เว็บไซต์ยูทูบ (ภาษาไทย) กับการสื่อสารความเกลียดชัง” โดยมัทนา นันตา มหาบัณฑิตจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า คุณลักษณะของเว็บไซต์ยูทูบส่งผลต่อมิติต่างๆ ทั้งในมิติของการผลิตคลิปวิดีโอ ซึ่งผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยีสูง เนื่องจากการผลิตคลิปวิดีโอเพื่ออัปโหลดลงเว็บไซต์ยูทูบสามารถใช้โปรแกรมของเว็บไซต์ยูทูบในการทำสไลด์ ซึ่งผู้ใช้สามารถทำได้ไม่ยาก โดยทำตามขั้นตอนที่มีการอธิบายไว้เป็นภาษาไทยในหน้าเว็บไซต์อย่างละเอียด ในส่วนของมิติการเข้าถึง ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคลิปวิดีโอได้หลายวิธีการ เช่น การใช้คำค้นหา (Keyword) ค้นหาในเว็บไซต์ยูทูบหรือเว็บไซต์เสิรช์เอ็นจิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเว็บไซต์กูเกิ้ล (Google) ซึ่งเป็นเว็บไซต์เสิร์ชเอ็นจินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทยนั้นเป็นบริษัทแม่ของเว็บไซต์ยูทูบ ความเป็นเจ้าของ (Ownership) ดังกล่าวส่งผลให้การเข้าถึงคลิปวิดีโอในเว็บไซต์ยูทูบได้รับการสนับสนุนอย่างดี ในบางกรณีจะพบว่าผู้ใช้เว็บไซต์ยูทูบสามารถเข้าถึงคลิปวิดีโอได้จากการที่สื่อกระแสหลักนำคลิปวิดีโอในเว็บไซต์ยูทูบมานำเสนอและคลิปวิดีโอในเว็บไซต์ยูทูบมีความคงทนถาวรมากกว่าสื่ออื่นๆ และในมิติของการแบ่งปันคลิปวิดีโอก็สามารถแบ่งปันคลิปวิดีโอไปยังเว็บไซต์อื่นๆ และเครือข่ายผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้สะดวกรวดเร็วและไม่มีข้อจำกัด คุณลักษณะของเว็บไซต์ยูทูบส่งผลให้การผลิตและการแพร่กระจายการสื่อสารความเกลียดชังทำได้ง่าย ใครๆก็สามารถผลิต Hate Speech ได้ และความเป็นนิรนามในโลกออนไลน์ก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกต้องรับผิดชอบต่อการกระทำใดๆมีน้อยลง นอกจากคุณลักษณะของตัวเทคโนโลยีแล้ว บริบททางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมก็เป็นส่วนสำคัญในการบ่มเพาะความเกลียดชังให้ดำรงอยู่