ผู้นำที่แท้จริง

จาก ChulaPedia

ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

ผู้นำที่แท้จริง คอลัมน์ เศรษฐกิจระบบสารสนเทศ โดย ดร.ฉวีวรรณ สายบัว ประชาชาติธุรกิจ

ประเด็นเรื่องผู้นำและความเป็นผู้นำ (leader and leadership) มักจะเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจหรือได้รับการพิจารณาและเห็นความสำคัญในระดับสูงหรือระดับต้นๆ เสมอ เพราะผู้นำคือคนที่จะบอกเรา (ที่เป็นประชาชนหรือผู้ตาม) หรือคนที่จะชี้ว่าเราจะไปทางไหนและเพื่ออะไร และส่วนผู้บริหาร (executive) คือคนที่รู้ว่าจะไปให้ถึงได้อย่างไร และผู้นำที่สามารถก็จะเป็นผู้บริหารในเวลาเดียวกัน

เพราะฉะนั้น ผู้นำ (ไม่ว่าจะเป็นผู้นำองค์กรไหนและระดับไหน) เป็นอย่างไร หรือการทำบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้นำหรือคนที่นั่ง อยู่ในตำแหน่งผู้นำเป็นอย่างไร หรือมีความเป็นผู้นำหรือไม่ หรือการขาดผู้นำจริงๆ หรือผู้นำที่แท้ที่จะนำหรือเป็นตัวแทนของประชาชนในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศด้านต่างๆ จึงสามารถสร้างผลกระทบหรือปัญหาได้มากมายหรืออย่างมหันต์ทีเดียว

ในสังคมที่เจริญแล้วหรือที่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะในยุโรปตะวันตก ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และแคนาดา เมื่อผู้นำประเทศคนเดิมจะต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย เพราะหมดวาระการดำรงตำแหน่งตามปกติ หรือด้วยสาเหตุประการใดก็ตาม ก็ยังมีคนอื่นในพรรคการเมืองเดียวกันหรือพรรค การเมืองฝ่ายตรงกันข้าม หรือคนอื่นในประเทศที่สามารถเสนอตัวขึ้นมาให้เลือกเป็นผู้นำ หรือผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของประเทศได้อีกมาก (เช่นเดียวกับผู้นำในระดับรองๆ ลงมาและในองค์กรประเภทต่างๆ ในประเทศเหล่านั้น) ประชาชนในประเทศเหล่านั้นจึงมักไม่ค่อยประสบปัญหาอะไรมากนักในการที่จะเลือกคนที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำ

แต่ขณะที่ในสังคมยังไม่เจริญ สังคมที่ยังล้าหลังหรือเป็นประเทศด้อยพัฒนาหรือเป็นประเทศกำลังพัฒนาในแอฟริกา เอเชีย และละตินอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่ระบอบการปกครอง/การบริหารประเทศยังมีความเป็นเผด็จการอยู่มาก ยังเป็นการปกครองโดยใช้กำลัง การปกครองที่ยังใช้อำนาจ ยังเป็นการปกครองที่มีผู้ปกครองและผู้ใต้ปกครอง หรือแม้จะมีผู้นำและรัฐบาลบริหารประเทศที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่ในความเป็นจริงยังมีความไม่เป็นประชาธิปไตย (ตามความหมายที่แท้จริง) อยู่มาก

คนที่อยู่ในตำแหน่งผู้นำ/ผู้ปกครองประเทศจึงไม่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทน หรือนำประชาชนในการแก้ไขปัญหา และพัฒนาประเทศด้านต่างๆ ดังกล่าว ปัญหามากมายของประชาชนทุกด้านแทบจะไม่เคยได้รับการเยียวยาหรือแก้ไขกันจริงๆ ตลอดจนผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาประเทศจึงยังไม่เคยตกถึงมือประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ปัญหาความยากจน การว่างงานและความไม่เท่าเทียมกันในโอกาส ฐานะและรายได้ จึงยังเป็นปัญหาเรื้อรังและกระจายอยู่ในหมู่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ

นอกจากจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาและขาดฝีมือ และความสามารถที่จะช่วยแก้ปัญหาของประเทศของประชาชนได้แล้ว คนไม่กี่คน หรือคนส่วนน้อย ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำ/ ผู้บริหารประเทศยังสามารถสร้างปัญหา และความเสียหายให้แก่ประชาชนและประเทศชาติโดยส่วนรวมได้อย่างมหันต์ ปัญหาการใช้อำนาจรัฐ/ อำนาจของประชาชนไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ไปในทางแสวงหาผลประโยชน์ และปกป้องพวกพ้องของตนเอง (ของคนชั้นสูง/ชนชั้นผู้ปกครองด้วยกัน) จึงเป็นการกระทำที่ปรากฏให้เห็นกันอยู่ตลอดเวลามาโดยตลอด

ซึ่งประเทศไทยเองก็มีปัญหาเช่นเดียวกับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ดังเช่นที่กล่าวมาข้างต้นนั้น และโดยเฉพาะเป็นที่รู้และเข้าใจกันดีโดยทั่วไปว่าเรามีปัญหาในเรื่องการขาดแคลนผู้นำกันมากในทุกระดับ และทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนผู้นำหรือผู้นำประเทศสูงสุดคือตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขาด แคลนถึงขึ้นทำให้สาธารณชนไทยโดยทั่วไปเคยถูกทำให้มีความรู้สึกนึกคิดหรือถึงขึ้นหวาดกลัวกันมาแล้วว่า "ถ้าไม่เอาคุณชวน หลีกภัย (เป็นนายกฯ) แล้วจะเอาใคร ? ทำนองเดียวกับใน เวลานี้ของบ้านเมือง "ถ้าไม่ให้คุณทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯประเทศไทยต่อไปแล้ว (ซึ่งก็เป็นนายกฯที่เก่งที่สุดแล้วที่ประเทศไทยเคยมีมา) แล้วจะเอาใคร ? แล้วจะมีใครอื่น ?" (เพราะหัวหน้าพรรคการเมืองที่เหลืออื่นก็ล้วนพอจะรู้ถึงขนาด และฝีมือว่าเก่งว่าดีกันขนาดไหนทั้งนั้นแล้ว)

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองไกลออกไปจากประเทศไทยอีกครั้ง ปัญหาที่เมื่อสถานการณ์โลกมาถึงตอนนี้แล้ว (ผู้เขียน) มีความรู้สึกมากว่า แม้มนุษย์เราจะมีความสามารถที่จะสร้างจะพัฒนาอะไรต่อมิอะไรก้าวหน้าไปมาก หรือโดยเฉพาะพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกลมาก แต่สิ่งที่ขาดหายไป สิ่งที่ขาดแคลนไป หรือเมื่อมองไปทางไหนและระดับไหน (องค์กรภายในประเทศ ระหว่างประเทศ ระหว่างภูมิภาคและโลกโดยรวม) กลับมองไม่เห็นว่าจะมีผู้นำที่ดี ผู้นำที่สามารถ หรือผู้นำที่ยิ่งใหญ่เพียงพอหรือทัดเทียมกับปัญหาที่เรา โลกหรือมนุษยชาติเผชิญกันอยู่ในเวลานี้ ที่มากที่ยากและสลับซับซ้อนต่อการแก้ไขมากขึ้นทุกวัน เพื่อช่วยให้ปัญหาที่เรา โลกหรือมนุษยชาติเผชิญกัน อยู่ในเวลานี้ (ปัญหาด้านความมั่นคงและการก่อการร้าย ปัญหาช่องว่างของความไม่เท่าเทียมกันระหว่างคน/ประเทศที่มีและไม่มี ปัญหาด้านพลังงาน ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ปัญหาความไม่สมดุลของเศรษฐกิจโลก ปัญหาความขัดแย้งและความแตก แยกเพราะความแตกต่างในความเชื่อ ค่านิยมและวัฒนธรรมของผู้คนในสังคมโลก) ได้รับการคลี่ คลายไปในทางที่ดีขึ้น มีความหวังและอนาคตที่ดีกันขึ้น

แล้วจะต้องมีคนที่เป็นผู้นำจริงๆ หรือผู้นำที่ แท้อย่างไรจึงจะสามารถทำบทบาท หน้าที่ และ ความรับผิดชอบของผู้นำได้อย่างดีได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาตามสถาน การณ์ที่โลกหรือมนุษยชาติเผชิญกันอยู่ในเวลานี้ในที่ต่างๆ และระดับต่างๆ ดังกล่าวมาได้ หรือผู้นำจริงๆ หรือผู้นำที่แท้เป็นอย่างไร

ผู้นำจริงเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของคนที่เป็นผู้นำ/คนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำกับคนอื่น ความสัมพันธ์กับคนอื่นเป็นอย่างไรเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก (ตัวอย่างผู้นำอยากปรารถนาที่จะเห็นคนอื่นหรือผู้ตามเป็นอย่างไร ตัวอย่าง พ้นจากความยากจน)

ความหมายของผู้นำจริงๆ หรือผู้นำที่แท้ (authentic leader) คือคนที่เกิดมาเพื่อทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น (มีความรัก ความเมตตา ความกรุณา ความห่วงใยในผู้อื่นอย่างเปี่ยมล้น) คือคนที่ไม่เห็นแก่ตัวเลย ทำอะไรดีสำหรับตนเองและผู้อื่น คนเป็นผู้นำต้องถ่อมตนเองเป็นที่สุด ทำให้คนอื่นใหญ่กว่าตนได้ หรือเป็นคนที่สร้างคนอื่นได้ (ไม่ได้ทำอะไรเพื่อชื่อเสียง โชคลาภ ความมั่งคั่ง และเพื่ออำนาจของตนเองและพวกพ้อง)

ผู้นำไทยสร้างคนอื่นไม่ได้ เพราะเกิดมาก็ทำตนเป็น "นาย" ใช้คนอื่นเสมือนเป็น "บ่าว/ทาส" ปกครองคนอื่นโดยใช้อำนาจ ปฏิบัติต่อคนอื่นรวมทั้งประชาชนเหมือนเป็นวัวควาย มีใครเก่ง มีใครดี ก็เอาไปใช้ (ทำให้คนเก่ง/คนดีในที่สุดคนเก่งก็หายเก่งและคนดีก็หายเป็นคนดี) แล้วก็ให้ตำแหน่ง อำนาจ เงินและชื่อเสียง (กลายเป็นคนขายตน เลิกนับถือตนเองหรือเป็นโสเภณี) แบบนี้มันจึงสร้าง คนกันไม่ได้

หรือเราจึงไม่มีผู้นำที่จะเป็นตัวแทนหรือนำประชาชนทำการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศทางด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองได้ (innovative/task leaders) เรามีแต่ผู้นำพิธีกรรมทางสังคมเท่านั้น (social leaders) ยังเป็นสังคมขั้นปฐม (primitive society) ที่ยังเชื่อในเวทมนตร์คาถาและไสยศาสตร์ "ผู้นำทำตัวเป็นเทวดา" "ผู้นำทำตัวเป็นเสมือนพระผู้มาโปรด" "ผู้นำทำตัวเหมือนเล่นกล" เสกเป่าเหมือนนักมายากล (magic leadership)

ความจริงที่เป็นดังเช่นที่กล่าวมาข้างต้น เพราะสถาบันเก่าๆ (traditional institutions) ยังครอบงำหรือครอบครองผู้คน/สังคมอยู่ ทำให้ "ไม่มีอะไรจะจริงได้เลย" เพราะสภาพแวดล้อมทำให้ทุกคน ต้องโกหกหลอกลวงกันหมด

เมื่อเริ่มต้นจากผู้ใหญ่/ผู้นำ ผู้มีอำนาจ/ผู้อยู่ ในตำแหน่งต่างๆ ล้วนไม่รับความจริง ไม่ฟังความจริง รับความจริงไม่ได้ ล้วนโกหกกัน ก็ยิ่งทำให้คน ใต้ปกครองยิ่งต้องโกหกมากกว่าหลายเท่าตามมา กลายเป็น "โกหก" ทั้งประเทศ (หรือกลายเป็น "nation of liars") ตามมาด้วย "เล่นเกมทั้งประเทศ" (game of strategy) จึงเป็นกระบวนการทำลายตนเองและทำลายกันและกันของผู้คนในสังคม (self destruction process) มันก็จะแก้ปัญหาอะไรกันไม่ได้ มันก็จะไปไม่รอด มันก็จะพังกันในที่สุด

เพราะฉะนั้น ดังที่พูดถึงมาแล้วในบทความก่อนหน้านี้ของผู้เขียนว่า นายกฯทักษิณ ชิน วัตร (มีความเป็นไปได้มาก) จะเป็นนายกฯแบบ เก่าคนสุดท้ายของประเทศไทย (traditional practice) หลังจากนั้นแล้วผู้ที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำที่แท้หรือผู้นำที่จะทำให้เกิดการ "คิดใหม่ ทำใหม่" จริงๆ ซึ่งจะเป็น "ทางออก" ของประเทศไทยจะต้องเป็นคนหรือผู้นำที่ไม่มีอะไรผูกพันกับของเดิมเลย (new practice)

เครื่องมือส่วนตัว