โรคท้องเสีย

จาก ChulaPedia

ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น

เนื้อหา

อาการท้องเสีย

อันตรายที่เกิดขึ้นจากภาวะท้องเสียโดยมากเกิดจากการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ออกจากร่างกายอย่างมากและรวดเร็ว ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและอ่อนเพลีย ในรายที่เป็นมากหรือไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจช็อกและเสียชีวิตได้

ควรรีบพบแพทย์ หากมีอาการที่แสดงถึงภาวะขาดน้ำ ดังนี้

  • รู้สึกอ่อนเพลียมาก หน้ามืดหรือวิงเวียนเวลาเปลี่ยนท่าทางจากนั่งเป็นยืน
  • ตาลึกบุ๋ม ไม่ค่อยมีน้ำตา (ถ้าร้องไห้) ปัสสาวะไม่ออกหรือปัสสาวะลดลง
  • ปากแห้ง กระหายน้ำบ่อยและมาก
  • มีอาการท้องเสียนานเกิน 2 วัน น้ำหนักตัวลดมากกว่าร้อยละ 5 จากน้ำหนักก่อนท้องเสีย

และหากผู้ป่วยมีไข้สูงมากหรือปวดท้องอย่างรุนแรงหรือถ่ายเป็นมูกเลือดหรือถ่ายบ่อยมากหรือมีโรคประจำตัวอย่างเช่นเบาหวาน ตั้งครรภ์ เป็นเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุควรไปพบแพทย์


การป้องกันท้องเสีย

ในภาวะปกติ หรือสถานการณ์วิกฤต ควรทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

  • ให้เช็ดหรือล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังเข้าห้องน้ำและก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง
  • รับประทานแต่อาหารที่ปรุงสุกใหม่ ไม่มีส่วนประกอบของกะทิซึ่งบูดเสียได้ง่าย
  • ควรดื่มน้ำต้มสุก หากกรณีที่ไม่สามารถต้มน้ำดื่มได้ อาจใช้สารละลายคลอรีนที่ผลิตโดยกรมอนามัย ความเข้มข้นร้อยละ 2 หยดลงในน้ำอัตราส่วน 1 หยดต่อน้ำ 1 ลิตร แล้วทิ้งไว้ 30 นาทีจึงสามารถดื่มได้
  • ก่อนการบริโภคทุกครั้ง สังเกตวันหมดอายุ และสภาพของอาหาร ว่ามีสภาพดีหรือไม่? กลิ่นและสีเป็นปกติหรือไม่?
  • ควรขับถ่ายในห้องส้วมที่สามารถใช้การได้ ถ้าไม่มีให้ขับถ่ายอุจจาระในถุง ถ้ามีปูนขาวหรือน้ำยาฆ่าเชื้อให้ใส่ลงในถุงอุจจาระก่อนแล้วปิดปากถุงให้แน่น การกำจัดถุงอุจจาระหรือขยะภายในบ้านใส่ถุงแล้วผูกปากถุงให้แน่น รวมส่งให้ทางการนำไปกำจัดต่อไป


การรักษาอาการท้องเสียเบื้องต้น

สิ่งที่สำคัญและจำเป็นที่สุดคือ การทดแทนน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไป โดยการรับประทานน้ำสารละลายเกลือแร่หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าผง โอ อาร์ เอส (ORS) ลดอันตรายจากโรคและทำให้โอกาสหายเร็วขึ้น

  • ถ้ามีผงเกลือแร่ ORS ชนิดซอง ให้ละลายน้ำ 1 แก้วต่อผงเกลือแร่ 1 ซอง(เล็ก) ถ้าซองใหญ่ละลายน้ำหนึ่งขวด(ขนาดขวดน้ำปลา)
  • ดื่มสารละลายผงเกลือแร่แทนน้ำ ทุกครั้งที่กระหาย หากถ่ายเป็นน้ำปริมาณมากให้กะประมาณสารละลายที่ดื่มให้ได้ใกล้เคียงกับที่ถ่ายไป หากมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วยให้จิบทีละน้อยแต่บ่อยๆครั้งแทนการดื่ม
  • ในกรณีที่ไม่สามารถหาผงเกลือแร่ ORS ได้ สามารถเตรียมสารละลายเกลือแร่ขึ้นเอง โดยใช้น้ำตาลทราย 8 ช้อนชาและเกลือป่น 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 ลิตร
  • หลีกเลี่ยงการรับประทาน อาหารที่ย่อยยากหรืออาหารที่มีกากมาก รับประทานอาหารอ่อนหรืออาหารเหลวที่ย่อยง่าย ดื่มนมได้ แต่หากดื่มนมแล้วอาการท้องเสียรุนแรงขึ้น ให้หยุด
  • ยาต้านเชื้อจุลชีพ ยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวนะมีความจำเป็นเฉพาะผู้ป่วยท้องเสียบางรายเท่านั้น เช่น มีไข้สูงร่วมกับอาการหนาวสั่น อุจจาระเป็นมูกหรือมีเลือดปน หรือมีโรคประจำตัวเช่นเบาหวานหรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์โดยด่วนการใช้โดยไม่จำเป็น อาจเกิดแพ้ยา
  • ผู้ป่วยท้องเสียไม่ควรรับประทานยาหยุดถ่าย เนื่องจากยิ่งทำให้อาการรุนแรงขึ้น หากท้องเสียเกิดจากการติดเชื้อโรค

ข้อควรระวังในการรักษาท้องเสียโดยผงเกลือแร่

  • การละลายผงเกลือแร่ต้องใช้น้ำสะอาด หรือให้ต้มน้ำให้เดือด รอจนน้ำเย็นจึงผสมผงน้ำตาลเกลือแร่
  • ผงเกลือแร่เมื่อผสมน้ำแล้วใช้ให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง หากเกิน 24 ชั่วโมงหลังชงให้ทิ้งไป
  • ควรระวังการใช้ในผู้ที่มีปัญหาโรคไต โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ส่วนการใช้ในเด็กให้ใช้ชนิดที่ระบุว่า “สำหรับเด็ก” จะเหมาะสมและปลอดภัยมากขึ้น
  • เก็บผงน้ำตาลเกลือแร่ไว้ในที่แห้ง เนื่องจากความชื้นอาจทำให้ผงยาเกาะตัว ละลายได้ยาก


รายการอ้างอิง

เอกสารความรู้ "การใช้ยาในโรคที่มากับน้ำท่วม" โดย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิงอภิฤดี เหมะจุฑา
เภสัชกรหญิงสิรินุช พละภิญโญ
เภสัชกรกิติยศ ยศสมบัติ
เครื่องมือส่วนตัว